Source: เปิด 20 หุ้นกลุ่ม THAIESG ที่ถูก Short sell ต่อมูลค่าซื้อขายมากสุด
วันที่ 24 มิถุนายน 2567 – 11:46 น.
บล.เอเซีย พลัส แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นในกลุ่ม THAIESG ที่มีโอกาสได้เม็ดเงินกระตุ้น และหวัง SHORT น้อยลงจากกฏ UPTICK อาทิ IVL, AWC, IRPC, SCGP แนะจับตาแถลง “มาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน” ของ 3 หน่วยงานคลัง-ก.ล.ต.-ตลท.
วันที่ 24 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด รายงานผ่านบทวิเคราะห์ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ออกมาตรการยกระดับความเชื่อมั่นตลาดทุน 4 ข้อ
สวนน้ำดัง ประกาศยุติกิจการ เลิกจ้างพนักงาน 70 % ของจำนวนบุคลากร
กสิกรไทย จำกัดเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ “e-Savings” ได้แค่คนละ 1 บัญชี ตั้งแต่ 25 มิ.ย. 67
กรมอุตุฯเตือน ฝนตกหนักถึงหนักมาก 60-80% ฉบับที่ 7 ช่วง 24-26 มิ.ย.นี้
โดยมาตรการ 4 ข้อ เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นตลาดทุน มีดังนี้
1. กำหนดเกณฑ์หุ้นที่จะ SHORT SELLING (มีผล 21 มิ.ย. 67)
2. มี UPTICK RULE ในทุกบริษัท (มีผล 1 ก.ค.67)
3. ลงทะเบียน HIGH-FREQUENCY TRADING (1 ก.ค. 67)
4. เปิดเผยผู้ส่งคำสั่งไม่เหมาะสม (1 ก.ค. 67)
ประเด็นดังกล่าวคาดทำให้ความผันผวนของตลาดหุ้นไทยลดน้อยลง อีกทั้งวานนี้ กระทรวงการคลัง เตรียมเปิด มาตรการปลุกตลาดทุน เคาะปรับเงื่อนไขกองทุน THAIESG มาช่วยพยุงหุ้นมากขึ้น โดยเงื่อนไขที่ปรับปรุงมีรายละเอียด ดังนี้
ซึ่งวันนี้ ฝ่ายวิจัยจะมาเปรียบเทียบเงื่อนไขและข้อจำกัดของแต่ละกองทุนประหยัดภาษีทั้ง LTF SSF และ THAIESG ว่ามีข้อแตกต่างกันอย่างไร โดยเรียงลำดับจากกองทุนที่มีเงื่อนไขที่ช่วยหนุนลภาพคล่องให้ SET INDEX จากมากไปน้อย ดังนี้
เพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษี จากเดิมไม่เกิน 100,000 บาท เป็นไม่เกิน 300,000 บาท
ลดระยะเวลาถือครองหน่วยลงทุน จากเดิมต้องถือครอง 8 ปี เหลือเพียง 7 ปี
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะมีผลในช่วง 3 ปี ระหว่างปี 2567-2569 โดยคาดว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดประเด็นดังกล่าวในการแถลง “มาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน” ของ 3 หน่วยงาน (คลัง-ก.ล.ต.-ตลท.) ในวันนี้ เวลา 17.00-18.00 น. ซึ่งต้องติดตามว่าจะมีรายละเอียด และเงื่อนไขอะไร SURPRISE นักลงทุนหรือไม่
โดยฝ่ายวิจัยคาดว่าหากไม่มีเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติมจากเนื้อหาข่าว มูลค่าเม็ดเงินซื้อสุทธิรายเดือนของกองทุน THAIESG ใหม่นี้ จะอยู่ราว 1.5-3.0 พันล้านบาท จากการเปรียบเทียบมูลค่าเม็ดเงินซื้อสุทธิกับกองทุน THAIESG เดิมที่ออกมาช่วงปลายปีที่แล้ว
ขณะที่ในมุมของหุ้นที่น่าลงทุน เน้นไปที่หุ้นในกลุ่ม THAIESG ที่มีโอกาสได้เม็ดเงินกระตุ้น และหวัง SHORT น้อยลงจากกฏ UPTICK อาทิ IVL, AWC, IRPC, SCGP, KKP, BEM, KTC, CRC, TCAP เป็นต้น
สรุป มาตรการช่วยพยุง SET มีมากขึ้นเรื่อยๆ ดังรายละเอียดข้างต้น หนุน SET จะผันผวนน้อยกว่าอดีต และมีโอกาสกลับทิศเป็นขาขึ้นได้ หากเย็นนี้ การแถลง “มาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน” ของ 3 หน่วยงาน (คลัง-ก.ล.ต.-ตลท.) มีสิ่งที่ SURPRISE ตลาดส่วนหุ้นที่น่าลงทุนในช่วงนี้ เน้นหุ้นในกลุ่ม THAIESG ที่มีโอกาสถูก COVER SHORT อาทิ IVL AWC IRPC SCGP KKP BEM KTC CRC TCAP เป็นต้น… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/finance/news-1592449