Blog

การเปลี่ยนแปลงมูลค่าพอร์ตการลงทุนของกระทรวงการคลังในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 เรียกได้ว่า “น่าตกใจ” เมื่อข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 11 มิถุนายน 2568 เทียบกับวันที่ 30 ธันวาคม 2567 พบว่ามูลค่าพอร์ตหุ้นที่กระทรวงถืออยู่หายไปรวมถึง 293,238 ล้านบาท หรือลดลงมากถึง -26.73% ภายในเวลาเพียง 6 เดือน

ใครหายหนักสุด?

AOT หายหนักสุด มูลค่าทรุดลงกว่า 270,000 ล้านบาท หรือ -45.38% สะท้อนถึงแรงกดดันในภาคการบินและนักท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับมาฟื้นเต็มที่

PTT ลดลง 21,898 ล้านบาท จากราคาหุ้นที่อ่อนตัวลง แม้ยังเป็นหุ้นพื้นฐานดี

MCOT, BEYOND, OR, DMT และอีกหลายบริษัทที่รัฐถือหุ้น ต่างประสบภาวะขาลงพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ณ วันที่ 13 มิ.ย. 68 ราคาหุ้น AOT ยังลดลงต่อ มาอยู่ที่ระดับ 30 บาท/หุ้น ส่งผลให้มูลค่าหุ้น AOT ที่อยู่ในพอร์ตของกระทรวงการคลัง ลดลงไปอีก 2.5 หมื่นล้านบาท จากกวันที่รวบรวมข้อมูล หรือลดลงไปแล้วทั้งสิ้น 2.95 แสนล้านบาท ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT และ BCP กลับฟ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากเกิดข่าวความไม่สงบในตะวันออกกลาง จนราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวขึ้น โดย PTT มีมูลค่าหุ้นฟื้นขึ้นมาจากวันรวบรวมข้อมูล เหลือประมาณติดลบ 1 หมื่นล้านบาท ส่วน BCP จากมูลค่าติดลบ สามารถกลับมาเป็นบวกได้

มีหุ้นไหนรอดบ้าง?

ในความมืดมิด ยังมีหุ้นที่ “บวก” ได้อยู่ 2 ตัวเท่านั้น ได้แก่ MFC เพิ่มขึ้น 15 ล้านบาท หรือ +2.65% และ TT เพิ่มขึ้น 1,023 ล้านบาท หรือ +4.84% รวมมูลค่าเพิ่มขึ้นเพียง 1,038 ล้านบาท ซึ่งเทียบกับมูลค่าที่หายไปกว่า 2.9 แสนล้านบาทแล้ว เรียกได้ว่าแทบไม่ช่วยอะไรเลย

สุดท้ายท่ามกลางข่าวที่ สคร.ได้แจ้งว่ามีการดำเนินการขายหุ้นออกมาแล้ว 16 ตัว เพื่อนำเงินที่ได้ประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท ไปลงทุนในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า จะมีตัวไหนบ้าง