‘ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์’ ซัด ‘วรวรรณ’ ตรรกะเป็นเท็จ ปมโพสต์ ‘ยกเลิกทุกนโยบายว่าที่รบ. เขียวทั้งกระดานทันที’

Source: ‘ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์’ ซัด ‘วรวรรณ’ ตรรกะเป็นเท็จ ปมโพสต์ ‘ยกเลิกทุกนโยบายว่าที่รบ. เขียวทั้งกระดานทันที’

วันที่ 4 มิถุนายน 2566 – 09:24 น.

‘ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์’ ชำแหละผลประกอบการ B-LTF ภายใต้การดูแล ‘วรวรรณ ปธ.บลจ.บัวหลวง’ 5 ปี ติดลบ -16.49% แพ้ฝากแบงก์-เงินเฟ้อยับ ซัดโพสต์ ‘ยกเลิกทุกนโยบายของว่าที่รัฐบาล เขียวทั้งกระดานทันที’ ตรรกะเป็นเท็จ

จากกรณีที่นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด โพสต์เฟซบุ๊ก ‘วรวรรณ ธาราภูมิ‘ ระบุว่า ทำอย่างไรหุ้นถึงจะขึ้น “ยกเลิกทุกนโยบายของว่าที่รัฐบาล เขียวทั้งกระดานทันที”

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้โพสต์ดังกล่าวของนางวรวรรณ โดยระบุว่าเป็นข้อความที่ขาดตรรกะ/ตรรกะเป็นเท็จ เพราะกองทุนบัวหลวงเพื่อการลงทุนระยะยาว (B-LTF) ที่บริหารโดยนางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด แพ้ตลาดมาโดยตลอดโดย 5 ปี -16.49% แพ้ฝากแบงก์ และแพ้เงินเฟ้อยับ ซึ่ง Morning Star Thailand ให้เกรด Underperform หรือประสิทธิภาพต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งที่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ยังอยู่ภายใต้รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และยังไม่ได้เปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

Advertisement

ทั้งนี้ที่ดร. ดร.ณัฐวุฒิ หยิบยกกองทุน B-LTF มาชำแหละก็เนื่องจากกองทุนนี้เข้าไปถือหุ้น STARK ซึ่งเป็นข่าวร้อนแรงที่ผู้บริหาร STARK ถูกกล่าวหาว่าบริหารไม่โปร่งใสอยู่ในขณะนี้ โดย B-LTF ถือมากเป็นสัดส่วนลำดับที่ 5 ของผู้ถือหุ้น START ทั้งนี้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

Advertisement

ตัวเลขไม่เคยโกหกใคร-คราวนี้ผมขอสรุปที่ไล่เรียงมาช่วง 3 วันดังนี้ครับ

1.ที่พี่ตู่ วรวรรณ ประธาน บลจ.บัวหลวง พูดว่า หากอยากให้หุ้นขึ้นก็เพียงแค่ว่าที่รัฐบาลใหม่ยกเลิกนโยบายทั้งหมด หุ้นเขียวทั้งกระดานทันทีนั้น…มันขาดตรรกะ คงจะไม่เป็นความจริงครับ ดูจากกองทุนบัวหลวงเพื่อการลงทุนระยะยาว พี่ตู่ วรวรรณ เป็นประธาน ที่ถือหุ้น STARK ไว้มากนั้น ในรอบ 1 ปี มีผลตอบแทนขาดทุน -11.12% รอบ 5 ปี -16.49% รอบ10ปี (พอๆกับอายุรัฐบาลลุงตู่) +0.18% คือแพ้ฝากแบงก์ แพ้เงินเฟ้อยับ
(ดูลิงค์ https://www.finnomena.com/fund/B-LTF)

2.ที่สำคัญกองทุนนี้ก็ยังแพ้ตลาด และแพ้กองทุนประเภทเดียวกันด้วยครับ

ทาง Morning Star Thailand ให้เกรดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานกองทุนประเภทเดียวกัน ซึ่งก็อาจเป็นไปได้ว่า เนื่องจากการคัดหุ้นลงทุนนั้น ได้เลือกหุ้นที่มีปัญหาแบบ STARKเข้าพอร์ตมากก็ได้ (ดูรายละเอียด https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=625184516313943&id=100064672000412&mibextid=qC1gEa)

3.ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อบลจ.บัวหลวงของพี่ตู่ วรวรรณ ไปลงทุนในกองทุนหุ้นต่างประเทศนั้นให้ผลตอบแทนบวกมากถึง 42.44%( ดูลิ้งค์ https://www.finnomena.com/fund/B-GLOBAL )

เนื่องจากช่วง10 ปีมานี้ระหว่างประเทศไทยติดหล่มการเมืองที่ขาดเสถียรภาพ ประสิทธิภาพการบริหารต่ำ ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตต่ำ ทุนไหลออก ทุนทางตรงไม่ไหลเข้า ทำให้ผลตอบแทนในตลาดหุ้นไทยต่ำไปด้วย แต่ในระดับโลกกำลังมีความเจริญรุ่งเรืองขยายตัวเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจใหม่ ทำให้ผลงานของบลจ.บัวหลวงในต่างประเทศกำไรผลตอบแทนสูงพอๆ กับค่าเฉลี่ยในตลาดหุ้นโลกเช่นกัน

4.ดังนั้นการนำเสนอของผู้บริหาร บลจ.บัวหลวงว่า หากอยากให้หุ้นขึ้นก็เพียงแต่ให้ว่าที่รัฐบาลใหม่ยกเลิกนโยบายเศรษฐกิจทั้งหมดก็เขียวทั้งกระดาน จึงอาจจะไม่มีประจักษ์หลักฐานที่สอดคล้องกับคำกล่าวนี้แต่อย่างใด เพราะหากยกเลิกแล้วกลับไปทำแบบเดิมที่เคยทำมาตลอด 9 ปียุคลุงตู่ กองทุนของพี่ตู่ วรวรรณก็คงผลตอบแทน Go to the moonไปแล้ว ไม่ใช่ Underperform อย่างที่เห็นกัน พิจารณาในแง่ตรรกะ=เป็นเท็จ

และด้วยความปรารถนาดี โดยยึดหลักพรหมวิหารสี่ กอรปด้วย เมตตา กรุณา เป็นอาทิ พี่ตู่ วรวรรณ ควรที่จะปรับตรรกะโดยไว ด้วยการลดอคติลง และเพิ่มความเป็นมืออาชีพให้สูงขึ้น เมื่อบวกรวมกับทักษะประสบการณ์อันยาวนาน ก็จะเกิดประโยชน์ต่อบลจ.บัวหลวง และผู้ถือหน่วยลงทุนบัวหลวง กับตลาดทุนได้มากต่อไป
ขออนุญาตตัดจบครับ

นอกจากนี้ ดร.ณัฐวุฒิ ยังโพสต์ด้วยว่า “ด่วน! คณะผู้บริหาร STARK ชุดใหม่ ร้องทุกข์ดำเนินคดีฉ้อโกงบริษัทแล้ว สตช. DSI เร่งสอบสวน ส่วนจะขยายผลมีเงินทอนซื้อหุ้นเกี่ยวข้องหรือไม่ กำลังสืบ (รออ่านรายละเอียด)

---------------------------------------------------------------------------------------

ที่พี่ตู่ วรวรรณ ประธานบลจ.บัวหลวง พูดว่า หากอยากให้หุ้นขึ้นก็เพียงแค่ว่าที่รัฐบาลใหม่ยกเลิกนโยบายทั้งหมด หุ้นเขียวทั้งกระดานนั้น...มันไม่เป็นความจริงครับ ดูจากกองทุนบัวหลวงเพื่อการลงทุนระยะยาว ที่ถือหุ้นSTARKไว้มากนั้น ในรอบ1ปี มีผลตอบแทนขาดทุน-11.12% รอบ 5ปี -16.49% รอบ10ปี(พอๆกับอายุรัฐบาลลุงตู่)+0.18% คือแพ้ฝากแบงก์ แพ้เงินเฟ้อยับ
(ดูลิ้งค์ https://www.finnomena.com/fund/B-LTF)
2.ที่สำคัญกองทุนนี้ก็ยังแพ้ตลาด และแพ้กองทุนประเภทเดียวกันด้วยครับ (ดูลิ้งค์ https://www.finnomena.com/fund/B-LTF/performance ) ทางMorning Star Thailandให้เกรดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานกองทุนประเภทเดียวกัน ( ดูลิ้งค์ https://www.morningstarthailand.com/th/funds/snapshot/snapshot.aspx?id=F000000RK9&tab=2 ) ซึ่งก็อาจเป็นไปได้ว่า เนื่องจากการคัดหุ้นลงทุนนั้น ได้เลือกหุ้นที่มีปัญหาแบบSTARKเข้าพอร์ตมากก็ได้
2.ที่สำคัญกองทุนนี้ก็ยังแพ้ตลาด และแพ้กองทุนประเภทเดียวกันด้วยครับ (ดูลิ้งค์ https://www.finnomena.com/fund/B-LTF/performance ) ทางMorning Star Thailandให้เกรดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานกองทุนประเภทเดียวกัน ( ดูลิ้งค์ https://www.morningstarthailand.com/th/funds/snapshot/snapshot.aspx?id=F000000RK9&tab=2 ) ซึ่งก็อาจเป็นไปได้ว่า เนื่องจากการคัดหุ้นลงทุนนั้น ได้เลือกหุ้นที่มีปัญหาแบบSTARKเข้าพอร์ตมากก็ได้
.ที่พี่ตู่ วรวรรณ ประธานบลจ.บัวหลวง พูดว่า หากอยากให้หุ้นขึ้นก็เพียงแค่ว่าที่รัฐบาลใหม่ยกเลิกนโยบายทั้งหมด หุ้นเขียวทั้งกระดานนั้น...มันไม่เป็นความจริงครับ ดูจากกองทุนบัวหลวงเพื่อการลงทุนระยะยาว ที่ถือหุ้นSTARKไว้มากนั้น ในรอบ1ปี มีผลตอบแทนขาดทุน-11.12% รอบ 5ปี -16.49% รอบ10ปี(พอๆกับอายุรัฐบาลลุงตู่)+1.96% คือแพ้เงินเฟ้อยับ
(ดูลิ้งค์ https://www.finnomena.com/fund/B-LTF)
ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อบลจ.บัวหลวงของพี่ตู่ วรวรรณ ไปลงทุนในกองทุนหุ้นต่างประเทศนั้นให้ผลตอบแทนบวกมากถึง42.44%( ดูลิ้งค์ https://www.finnomena.com/fund/B-GLOBAL ) เนื่องจากช่วง10ปีมานี้ระหว่างประเทศไทยติดหล่มการเมืองที่ขาดเสถียรภาพ ประสิทธิภาพการบริหารต่ำ ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตต่ำ ทุนไหลออก ทุนทางตรงไม่ไหลเข้า ทำให้ผลตอบแทนในตลาดหุ้นไทยต่ำไปด้วย แต่ในระดับโลกกำลังมีความเจริญรุ่งเรือขยายตัวเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจใหม่ ทำให้ผลงานของบลจ.บัวหลวงในต่างประเทศกำไรผลตอบแทนสูงพอๆกับค่าเฉลี่ยในตลาดหุ้นโลกเช่นกัน
1.จากรายงานต่อก.ล.ต.เมื่อวันที่28กันยายน 2565 มีทั้งสิ้น596ล้านหุ้นเศษ ราคาที่ซื้อมาสูงสุด4.46บาท/หุ้น ( ดู https://market.sec.or.th/public/idisc/th/r246 )
1.จากรายงานต่อก.ล.ต.เมื่อวันที่28กันยายน 2565 มีทั้งสิ้น596ล้านหุ้นเศษ ราคาที่ซื้อมาสูงสุด4.46บาท/หุ้น ( ดู https://market.sec.or.th/public/idisc/th/r246 )
2.ต่อมาอีกเพียงเดือนเดียว บลจ.บัวหลวงแจ้งรายงานต่อก.ล.ต.ว่าได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงเพิ่มมาอีก320ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ3.72บาท( ดู https://weblink.set.or.th/dat/news/202210/22121013.pdf )
จากรายงานของกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาวสิ้นสุดวันที่30พฤศจิกายน 2565 แจ้งว่าถือหุ้นSTARKในมือคิดเป็นมูลค่า 1,346 ล้านบาท (ดู https://www.bblam.co.th/application/files/5216/7384/2451/Prospectus_-_B-LTF_30-11-65.pdf )

.จากรายงานผู้ถือหุ้นใหญ่ของSTARKที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยล่าสุดเมื่อ 4 เมษายน 2566 กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาวถือครองหุ้นSTARKอยู่276ล้านหุ้น ( https://www.set.or.th/th/market/product/stock/quote/STARK/major-shareholders)

Leave a Reply

The maximum upload file size: 500 MB. You can upload: image, audio, video, document, spreadsheet, interactive, other. Links to YouTube, Facebook, Twitter and other services inserted in the comment text will be automatically embedded. Drop file here