Source: ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024: เราจะรู้เมื่อไหร่ว่าใครชนะ ? – BBC News ไทย
- Author,แซม คาบราล
- Role,บีบีซีนิวส์ วอชิงตัน
ชาวอเมริกันกำลังลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีคนต่อไปในการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันอังคารที่ 5 พ.ย.นี้ ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ
เมื่อการลงคะแนนสิ้นสุดลง อาจเป็นไปได้ว่าต้องรออีกหลายชั่วโมง หลายวัน หรือแม้กระทั่งหลายสัปดาห์ กว่าจะเริ่มมีการคาดการณ์ผู้ชนะ ขึ้นอยู่กับว่าการแข่งขันสูสีเพียงใด
และนี่คือสิ่งที่คุณควรรู้
จะประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 เมื่อใด ?
กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันจากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ได้แข่งขันกันมาอย่างสูสีตลอดหลายสัปดาห์
จากการสำรวจความคิดเห็นทั้งระดับชาติและในรัฐสวิงสเตท [รัฐที่ยังไม่แน่ชัดว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง] ผลคะแนนเริ่มทิ้งห่างกันน้อยลงเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ใกล้เข้ามา นี่อาจส่งผลให้คะแนนชนะห่างกันเล็กน้อยในหลายพื้นที่ และอาจจำเป็นต้องนับคะแนนใหม่
นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ว่าผลการเลือกตั้งบางส่วนอาจล่าช้ากว่าปกติในปีนี้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงวิธีจัดการการเลือกตั้งในแต่ละรัฐ ซึ่งรวมถึง 7 รัฐสวิงสเตทที่เป็นตัวตัดสินผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ด้วย
อีกด้านหนึ่ง มีการเร่งให้เกิดการนับคะแนนเร็วขึ้นในบางพื้นที่ เช่น มิชิแกน และตัวเลขผู้ลงคะแนนทางไปรษณีย์ยังน้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนที่จัดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิดอย่างมาก
ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้หลายประการที่อาจเกิดขึ้น การประกาศผู้ชนะอาจเกิดขึ้นในคืนเลือกตั้ง เช้าวันถัดไป หรืออาจจะอีกหลายวันหรือหลายสัปดาห์หลังจากนั้น
ผลการเลือกตั้งฯ ปี 2020 ประกาศตอนไหน ?
การเลือกตั้งปี 2020 จัดขึ้นในวันอังคารที่ 3 พ.ย. แต่เครือข่ายโทรทัศน์ในสหรัฐฯ ยังไม่ประกาศให้โจ ไบเดนเป็นผู้ชนะจนถึงช่วงสายของวันเสาร์ที่ 7 พ.ย.
ในคืนวันเลือกตั้ง ขณะที่ชาวอเมริกันเข้านอน ผู้สนับสนุนทรัมป์รู้สึกมั่นใจว่าชัยชนะอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ในความเป็นจริง ผู้สมัครทั้งสองคนยังมีโอกาสคว้าคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งประธานาธิบดี (electoral college vote) ให้ครบ 270 เสียง ซึ่งจำเป็นต่อการได้เป็นประธานาธิบดี
แม้ว่ารัฐส่วนใหญ่จะประกาศผลภายใน 24 ชั่วโมง แต่ก็ยังมีบางรัฐสำคัญ เช่น เพนซิลเวเนียและเนวาดา ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปแม้ผ่านไปแล้วหนึ่งวัน
อย่างไรก็ตาม เพนซิลเวเนีย ซึ่งมีคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 19 เสียง เริ่มมีแนวโน้มไปทางพรรคเดโมแครต และในเช้าวันเสาร์ ชุดคะแนนเสียงที่เพิ่งถูกนับเสร็จใหม่ในรัฐที่มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดได้ทำให้เครือข่ายโทรทัศน์ในสหรัฐฯ มั่นใจที่จะคาดการณ์ว่าไบเดนจะชนะที่นั่น
ซีเอ็นเอ็น (CNN) เป็นสำนักข่าวแรกที่ประกาศผล โดยมีเครือข่ายโทรทัศน์อื่น ๆ ประกาศตามมาในอีก 15 นาทีต่อมา
ปกติแล้วผลการเลือกตั้ง ประกาศตอนไหน ?
โดยทั่วไปแล้ว ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมักคุ้นเคยกับแนวคิดที่ว่าพวกเขาจะรู้ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปก่อนที่พวกเขาจะเข้านอนในคืนวันเลือกตั้ง หรืออย่างช้าที่สุดก็ในช่วงเช้าตรู่ของวันถัดไป
ในปี 2016 ตอนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรก เขาถูกประกาศว่าเป็นผู้ชนะในช่วงก่อนเวลา 03:00 น. ตามเวลาอีสเทิร์น ของวันถัดไปหลังการเลือกตั้ง
ในปี 2012 ตอนที่ บารัค โอบามา ได้รับชัยชนะในวาระที่สองของเขา ผลการเลือกตั้งถูกคาดการณ์ก่อนเที่ยงคืนของวันเลือกตั้งนั้นเลย
อย่างไรก็ตาม ก็มีกรณีที่เป็นข้อยกเว้นเช่นเดียวกัน นั่นคือการเลือกตั้งปี 2000 ระหว่างจอร์จ ดับเบิลยู บุช และอัล กอร์
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันในรัฐฟลอริดาที่มีการแข่งขันสูสี และผลการเลือกตั้งยังไม่ได้ข้อสรุปจนกระทั่งวันที่ 12 ธ.ค. เมื่อศาลสูงสหรัฐฯ ลงมติให้ยุติกระบวนการนับคะแนนใหม่ในรัฐนี้ ซึ่งทำให้บุชได้รับการรับรองเป็นผู้ชนะและได้เข้าสู่ทำเนียบขาว
รัฐที่ต้องจับตา
สถานที่ลงคะแนนแห่งแรกจะปิดหีบในเวลา 18:00 น. ในเย็นวันอังคาร ตามเวลาอีสเทิร์นของสหรัฐฯ (หรือ 06:00 น. วันพุธตามเวลาประเทศไทย) และสถานที่ลงคะแนนสุดท้ายจะปิดในเวลา 01:00 น. ในวันพุธ ตามเวลาอีสเทิร์น (หรือ 13:00 น. วันพุธตามเวลาประเทศไทย)
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันครั้งนี้คาดว่าจะตัดสินจากผลการเลือกตั้งในเจ็ดรัฐสวิงสเตท ได้แก่ แอริโซนา จอร์เจีย มิชิแกน เนวาดา นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน
ช่วงเวลาปิดหีบลงคะแนนของแต่ละรัฐและช่วงเวลาสำคัญอื่น ๆ มีดังนี้:
- 19:00 น. ตามเวลาอีสเทิร์น (หรือ 07:00 น. วันพุธตามเวลาประเทศไทย) – สถานที่ลงคะแนนปิดในจอร์เจียและอีกห้ารัฐ และบางส่วนของอีกสองรัฐ นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่เครือข่ายโทรทัศน์ในสหรัฐฯ น่าจะเริ่มคาดการณ์ผลการเลือกตั้งครั้งแรกในคืนวันนั้นจากรัฐที่มีการแข่งขันน้อยกว่า เช่น เคนทักกี
- 19:30 น. ตามเวลาอีสเทิร์น (หรือ 07:30 น. วันพุธตามเวลาประเทศไทย) – สถานที่ลงคะแนนปิดในสามรัฐ รวมถึงนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งกมลา แฮร์ริส หวังจะยุติสถิติการแพ้ของผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตตั้งแต่ปี 2008
- 20:00 น. ตามเวลาอีสเทิร์น (หรือ 08:00 น. วันพุธตามเวลาประเทศไทย) – สถานที่ลงคะแนนปิดในเพนซิลเวเนีย และในอีก 15 รัฐ รวมถึงในวอชิงตันดีซี รวมถึงบางส่วนของมิชิแกนและอีกสี่รัฐ
- 21:00 น. ตามเวลาอีสเทิร์น (หรือ 09:00 น. วันพุธตามเวลาประเทศไทย) – สถานที่ลงคะแนนที่เหลือทั้งหมดในมิชิแกนปิดลง และการลงคะแนนจะสิ้นสุดในแอริโซนา วิสคอนซิน และอีก 12 รัฐ
- 22:00 น. ตามเวลาอีสเทิร์น (หรือ 10:00 น. วันพุธตามเวลาประเทศไทย) – สถานที่ลงคะแนนปิดลงทั่วเนวาดาและอีกสองรัฐ และบางส่วนของอีกสองรัฐ
การนับคะแนนทำอย่างไร ?
โดยทั่วไปแล้ว คะแนนเสียงที่ลงในวันเลือกตั้งจะถูกรวมก่อน จากนั้นจะนับคะแนนที่ลงล่วงหน้าและทางไปรษณีย์ คะแนนที่มีการทักท้วง และตามด้วยคะแนนจากต่างประเทศและทหาร
เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งบางครั้งได้รับการแต่งตั้งและบางครั้งได้รับการเลือกตั้ง จะทำหน้าที่ตรวจสอบ ประมวลผล และนับคะแนนแต่ละใบ ในกระบวนการที่เรียกว่า การตรวจนับคะแนน (canvassing)
การตรวจสอบบัตรเลือกตั้งรวมถึงการเปรียบเทียบจำนวนบัตรที่ลงคะแนนกับจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนน การนำบัตรออกมา แกะออก และตรวจสอบบัตรทุกใบเพื่อหารอยฉีกขาด หรือความเสียหายอื่น ๆ รวมถึงทำการบันทึกและสืบสวนหากพบความไม่สอดคล้องใด ๆ
การนับบัตรเลือกตั้งนั้นมีกระบวนการใส่บัตรแต่ละใบเข้าสู่เครื่องสแกนอิเล็กทรอนิกส์ที่นับคะแนน บางสถานการณ์จำเป็นต้องนับด้วยมือหรือทวนคะแนนซ้ำเพื่อความแม่นยำ
รัฐทุกรัฐและท้องถิ่นมีกฎระเบียบที่เข้มงวด ซึ่งระบุว่าใครสามารถเข้าร่วมในการตรวจนับคะแนน ลำดับการประมวลผลคะแนน และส่วนใดที่เปิดให้ประชาชนเข้าชม รวมถึงวิธีการที่ผู้สังเกตการณ์จากพรรคการเมืองสามารถติดตามและเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการนับคะแนน
อะไรบ้างที่อาจส่งผลต่อความล่าช้าของการประกาศผล ?
คะแนนที่ใกล้เคียงกันจะทำให้สื่อชะลอการคาดการณ์ผลเลือกตั้งออกไปนานขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มโอกาสในการนับคะแนนใหม่และการท้าทายทางกฎหมาย
ยกตัวอย่างในเพนซิลเวเนีย มีกฎหมายที่กำหนดให้มีการนับคะแนนใหม่โดยอัตโนมัติทั่วทั้งรัฐหากพบว่าคะแนนของผู้ชนะและผู้แพ้ต่างกันเพียงครึ่งเปอร์เซ็นต์ ในปี 2020 ความแตกต่างของคะแนนอยู่ที่ประมาณ 1.1 เปอร์เซ็นต์
มีการยื่นฟ้องคดีก่อนการเลือกตั้งแล้วมากกว่า 100 คดีทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงการท้าทายคุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้งและการจัดการรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยพรรครีพับลิกัน การพิจารณาคดีในคดีเหล่านี้กำลังส่งผลต่อการเลือกตั้งในแต่ละวัน
สถานการณ์อื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดความล่าช้าได้ ยังรวมถึงเหตุความไม่สงบที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง โดยเฉพาะที่สถานที่ลงคะแนน และอุปสรรคในการนับคะแนน เช่น กรณีท่อน้ำแตกที่สถานที่ประมวลผลบัตรเลือกตั้งในจอร์เจียในปี 2020
จะเกิดอะไรขึ้นหากผู้คนไม่เชื่อถือผลการเลือกตั้ง ?
เมื่อคะแนนเสียงที่ถูกต้องทุกใบถูกรวมอยู่ในผลลัพธ์สุดท้ายแล้ว และกระบวนการต่าง ๆ เช่น การนับคะแนนใหม่ได้เสร็จสิ้น ผลการเลือกตั้งก็จะได้รับการรับรอง เริ่มจากระดับท้องถิ่น แล้วจึงขยายไปถึงระดับรัฐ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของรัฐ โดยทั่วไปคือผู้ว่าการรัฐ จะทำการรับรองสิ่งที่เรียกว่า “กลุ่มผู้เลือกตั้ง” (slate of electors) ซึ่งจะเป็นตัวแทนของรัฐนั้นในคณะผู้เลือกตั้ง กลุ่มผู้เลือกตั้งเหล่านี้จะประชุมกันในแต่ละรัฐในวันที่ 17 ธ.ค. เพื่อออกเสียงลงคะแนนและส่งคะแนนไปยังวอชิงตัน
ในวันที่ 6 ม.ค. สภาคองเกรสชุดใหม่จะประชุมร่วมกันเพื่อนับคะแนนเสียงของคณะผู้เลือกตั้ง โดยมีรองประธานาธิบดีคนปัจจุบันเป็นประธานการประชุม
หลังการเลือกตั้งปี 2020 ทรัมป์ปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้และปลุกระดมผู้สนับสนุนให้เดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภาสหรัฐ ขณะที่สภาคองเกรสกำลังประชุมเพื่อรับรองชัยชนะของไบเดน
เขาได้กดดันรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ให้ปฏิเสธผลการเลือกตั้ง แต่เพนซ์ปฏิเสธที่จะทำเช่นนั้น
แม้หลังจากการจลาจลสิ้นสุดลงและสมาชิกรัฐสภาได้กลับมาประชุมใหม่ แต่ก็ยังมีสมาชิกพรรครีพับลิกัน 147 คนที่ลงคะแนนเสียงเพื่อยกเลิกความพ่ายแพ้ของทรัมป์ แต่ไม่สำเร็จ
การปฏิรูปการเลือกตั้งตั้งแต่นั้นมาได้ทำให้สมาชิกสภาคองเกรสยากที่จะคัดค้านผลที่รับรองมาจากแต่ละรัฐได้ อีกทั้งยังทำให้ชัดเจนขึ้นด้วยว่ารองประธานาธิบดีไม่มีอำนาจที่จะปฏิเสธคะแนนเสียงของคณะผู้เลือกตั้งโดยลำพัง
อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งคาดว่าจะยังคงมีความพยายามในการทำให้การรับรองผลการเลือกตั้งปี 2024 ที่ระดับท้องถิ่นและระดับรัฐล่าช้า
ทรัมป์ รวมถึงคู่หูที่ลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของเขาอย่าง เจดี แวนซ์ และผู้นำพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส ได้ปฏิเสธหลายครั้งที่จะยืนยันอย่างชัดเจนว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้งหากทรัมป์พ่ายแพ้
พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งจะเกิดขึ้นเมื่อใด ?
ว่าที่ประธานาธิบดีจะเข้าพิธีรับตำแหน่งในวันจันทร์ที่ 20 ม.ค. 2025 ที่บริเวณอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ
พิธีนี้จะเป็นการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่ 60 ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
ในงานนี้ ประธานาธิบดีคนใหม่จะสาบานตนเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญ และกล่าวสุนทรพจน์เข้ารับตำแหน่ง