ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คงมีแฟนซีรีส์หลายคนที่ ‘ร้องไห้’ จนหน้าเบี้ยวไปกับ First Love ซีรีส์ความยาวเก้าตอนจบทาง Netflix เพราะนอกจากมันจะได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงรักของ อูทาดะ ฮิคารุ แล้ว มันก็ยังสะท้อนถึง ‘ความสัมพันธ์’ และ ‘ความฝัน’ ที่ต้องถูกละทิ้งด้วย”,”summary”:”ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คงมีแฟนซีรีส์หลายคนที่ ‘ร้องไห้’ จนหน้าเบี้ยวไปกับ First Love ซีรีส์ความยาวเก้าตอนจบทาง Netflix เพราะนอกจากมันจะได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงรักของศิลปินสาวผู้สร้างตำนานให้แก่วงการดนตรีญี่ปุ่นอย่าง อูทาดะ ฮิคารุ แล้ว เรื่องราวของมันก็ยังว่าด้วยชีวิตรักอันแสนสะเทือนใจตลอดสองทศวรรษ ระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาวที่เคยเป็น ‘รักแรก’ ของกันและกัน\n
เนื่องจากมันน่าจะสร้างผลกระทบทางอารมณ์ให้กับผู้ชมได้ไม่ยาก โดยเฉพาะกับคนที่เคยมีประสบการณ์ในการข้ามผ่าน ‘ความสัมพันธ์’ ที่ไม่ได้เป็นไปดังใจหวัง และ ‘ความฝัน’ ที่ต้องถูกละทิ้งระหว่างเส้นทางของการเปลี่ยนผ่านไปเป็นผู้ใหญ่ – ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมหลายคนถึงขั้นมี ‘น้ำตา’
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คงมีแฟนซีรีส์หลายคนที่ ‘ร้องไห้’ จนหน้าเบี้ยวไปกับ \u003cstrong\u003eFirst Love\u0026nbsp;\u003c/strong\u003eซีรีส์ความยาวเก้าตอนจบทาง Netflix เพราะนอกจากมันจะได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงรักของศิลปินสาวผู้สร้างตำนานให้แก่วงการดนตรีญี่ปุ่นอย่าง \u003cstrong\u003eอูทาดะ ฮิคารุ\u003c/strong\u003e แล้ว เรื่องราวของมันก็ยังว่าด้วยชีวิตรักอันแสนสะเทือนใจตลอดสองทศวรรษ ระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาวที่เคยเป็น ‘รักแรก’ ของกันและกัน ซึ่งก็น่าจะสร้างผลกระทบทางอารมณ์ให้กับผู้ชมที่เติบโตมาในช่วงเวลานั้นได้ไม่ยาก\u003c/p\u003e\u003cp\u003eโดยเฉพาะกับคนที่เคยมีประสบการณ์ในการข้ามผ่าน ‘ความสัมพันธ์’ ที่ไม่ได้เป็นไปดังใจหวัง และ ‘ความฝัน’ ที่ต้องถูกละทิ้งระหว่างเส้นทางของการเปลี่ยนผ่านไปเป็นผู้ใหญ่ – ซึ่งทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเสมือน ‘จดหมายรัก’ ที่มอบแด่ชีวิตในช่วงวัยเยาว์ที่ผ่านพ้นไปแล้ว และกำลังจะผ่านพ้นไปของคนทุกคน\u003c/p\u003e\u003cp\u003eและถึงแม้ว่า First Love จะเล่าเรื่องโดยมุ่งเน้นให้ผู้ชมที่มีอายุมากกว่า ได้รู้สึกเชื่อมโยงด้วย ผ่านบทเพลงของอูทาดะ และเรื่องทางสังคมวัฒนธรรมอื่นๆ ในรอบยี่สิบกว่าปี ที่ปรากฏอยู่ในซีรีส์ แต่เราก็เชื่อว่ายังมีองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่ทำให้ผู้ชมที่มีอายุน้อยกว่า สามารถเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกจากเรื่องเล่าและความสัมพันธ์อันเป็นสากลนี้ จนกลั่นออกมาเป็น ‘น้ำตา’ ได้ไม่ต่างกัน\u003c/p
\u003e\u003cp\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cspan class=\”fr-video fr-deletable fr-fvc fr-dvb fr-draggable\” contenteditable=\”false\” draggable=\”true\”\u003e\u003ciframe width=\”640\” height=\”360\” src=\”https://www.youtube.com/embed/o1sUaVJUeB0?\u0026amp;wmode=opaque\u0026amp;rel=0\” frameborder=\”0\” allowfullscreen=\”\” class=\”fr-draggable\”\u003e\u003c/iframe\u003e\u003c/span\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003ch2\u003eร่ำไห้ด้วยบทเพลง ‘รักแรก’ ของ อูทาดะ ฮิคารุ (และเรื่องสังคมวัฒนธรรมอื่นๆ) ที่อยู่เหนือกาลเวลา\u003c/h2\u003e\u003cp\u003eแค่ชื่อก็น่าจะชัดเจนอยู่แล้วว่า ซีรีส์สุดจี๊ดเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเนื้อหาของ\u003cstrong\u003e\u0026nbsp;First Love\u003c/strong\u003e เพลงรักหวานขื่นที่เป็นซิงเกิลหนึ่งจากอัลบั้มแรกชื่อเดียวกันของศิลปินสาวน้อยวัยสิบห้าปี (ในตอนนั้น) อย่าง อูทาดะ ฮิคารุ ซึ่งช่วยเปิดตัวเธอในฐานะ ‘ศิลปิน’ ได้อย่างสวยสดงดงาม (ถัดจากซิงเกิล Automatic, Time Will Tell และ Movin’ on Without You) จนโด่งดังเป็นพลุแตกในปี 1999\u0026nbsp;\u003c/p\u003e\u003cp\u003eบทเพลงที่ว่าด้วย ‘ความรักครั้งแรกที่แม้จะหลุดลอยไป แต่ก็ยังตราตรึงอยู่ในใจเสมอ’ และอัลบั้ม First Love นี้ยังทำให้อูทาดะกลายเป็น ‘สาวน้อยมหัศจรรย์’ ของวงการดนตรีญี่ปุ่นในยุคนั้น ที่สามารถแต่งเพลงร้องเองได้ ด้วยอายุที่น้อยอย่างเหลือเชื่อ อีกทั้งยังสร้างสถิติด้านอันดับเพลงและยอดขายมากมาย โดยเฉพาะสถานะของการเป็น ‘อัลบั้มภาษาญี่ปุ่นที่ขายดีที่สุดในบ้านเกิด’ ที่ตัวเลข 9.9 ล้านหน่วย ชนิดที่ไม่มีใครสามารถแย่งชิงตำแหน่งไปได้ตลอดยี่สิบกว่าปีมานี้
รวมไปถึงเพลง \u003cstrong\u003eHatsukoi\u003c/strong\u003e -ซึ่งมีความหมายว่า ‘รักแรก’ เช่นเดียวกับเพลงแจ้งเกิดของเธอเมื่อปลายยุค 90s- ที่เป็นหนึ่งในซิงเกิลโปรโมตจากอัลบั้มชื่อเดียวกันในปี 2018 โดยนับเป็นผลงานภาษาญี่ปุ่นชุดที่เจ็ด และเป็นผลงานชุดที่สิบของเธอที่สามารถขึ้นถึงอันดับหนึ่งบนชาร์ตโอริคอนได้ ซึ่งก็ดูคล้ายกับเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบยี่สิบปีในฐานะศิลปินที่ญี่ปุ่นของเธอพอดิบพอดี โดยที่เนื้อหาของเพลงยังคงพูดถึงแรงปรารถนาอันแรงกล้าเมื่อคนเรามีความรักครั้งแรก ที่แม้ไม่รู้ว่ามันจะจบลงเช่นไร แต่ก็ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีที่สองเราได้พบและแบ่งปันความรักให้แก่กัน\u003c/p\u003e\u003cp\u003e– ซึ่งหากย้อนมองกลับไปในเส้นทางดนตรีที่หลากหลายและรักการทดลองของ อูทาดะ ฮิคารุ เราก็จะพบว่า ผลงานเพลงของเธอนั้นเต็มไปด้วยเนื้อหา ท่วงทำนอง และบรรยากาศที่สามารถ ‘สื่อสาร’ กับหัวใจของผู้ฟังได้ราวกับมีมนตร์สะกด โดยเฉพาะในพาร์ตที่พูดถึงชีวิตและความสัมพันธ์ ซึ่งเราก็เชื่อว่า ต้องมีผู้ฟังจำนวนไม่น้อยที่เคยหลั่งน้ำตาเมื่อได้ยินบทเพลงของอูทาดะเป็นแน่\u003c/p\u003e\u003cp\u003eแล้วก็ยิ่งน่าชื่นชมขึ้นไปอีก เมื่อเพลงหลายเพลงของเธอจากตลอดสองทศวรรษมานี้ ยังคงไพเราะ น่าตื่นตะลึง แสนสะเทือนใจ หรือกระทั่งติดหู จนเรียกได้ว่า ‘เหนือกาลเวลา’ อยู่เสมอ – ไม่ว่าคนที่ได้ฟังจะเกิดและเติบโตมาในยุคใดสมัยไหนก็ตาม
และเมื่อเพลงของอูทาดะว่าด้วย ‘รักแรกที่ยังจดจำได้ไม่ลืมเลือน’ ตัวซีรีส์จึงเล่าถึงชีวิตของ ยาเอะ โนกุจิ หญิงสาวผู้ถ่อมตัวในวัยสามสิบ ที่มีอาชีพเป็นคนขับแท็กซี่อยู่ในซัปโปโรช่วงปี 2018 ที่จู่ๆ ก็รำลึกนึกย้อนถึงความรักครั้งเก่าของเธอเมื่อสมัยมัธยม อันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ อูทาดะ ฮิคารุ -ผู้มีอายุเท่ากับเธอ- เดบิวต์จนประสบความสำเร็จในวงการเพลง ฮารุมิจิ นามิกิ คือชื่อของเด็กหนุ่มร่วมโรงเรียน และรักแรกของยาเอะที่เธอนึกถึง ซึ่งในปี 2018 อันเป็นช่วงเวลาที่อูทาดะปล่อยเพลง Hatsukoi และยาเอะกำลังหาเลี้ยงตัวเองอยู่ตามลำพัง เขาเองก็ได้กลายมาเป็นชายหนุ่มกร้านโลกที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยให้กับอาคารแห่งหนึ่งในซัปโปโรเช่นกัน\u0026nbsp;\u003c/p\u003e\u003cp\u003eยาเอะและฮารุมิจิเคยรักกันมาก จนถึงขั้นเชื่อว่าพวกเขาคือ ‘พรหมลิขิต’ สำหรับกันและกัน ก่อนที่จะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้พวกเขาต้องพรากจาก และค่อยๆ กลายมาเป็นผู้ใหญ่ที่พวกเขาไม่คิดว่าตัวเองจะต้องเป็นในปัจจุบัน โดยมีเพลงเศร้าๆ ของอูทาดะคอยเปิดคลอเป็นซาวนด์แทร็กชีวิต
อย่างไรก็ดี ใช่ว่าจะมีแต่เพลงของอูทาดะที่ช่วยสร้างเสน่ห์ให้กับเรื่องเล่านี้เท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวทางสังคมและวัฒนธรรมอื่นๆ ในช่วงยุค 90s-2010s ที่พาผู้ชมย้อนวัยกลับไปยังวันวานอันหอมหวานและขมขื่นได้อย่างพอเหมาะพอดีอีกด้วย\u0026nbsp;\u003c/p\u003e\u003cp\u003eยกตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์ฮอลลีวูดอย่าง \u003cstrong\u003eTitanic\u0026nbsp;\u003c/strong\u003eจากปี 1997 ที่ในช่วงเวลานั้นโด่งดังและทำรายได้ถล่มทลายไปทั่วโลก จนหนังถูกนำไปฉายต่อเนื่องยาวนานเป็นปีในหลายประเทศ ซึ่งก็ได้ปรากฏเป็นเครื่องมือกระชับความสัมพันธ์ในช่วงแรกรักของยาเอะและฮารุมิจิ เมื่อพวกเขาพากันไปเดตด้วยการดูหนังเรื่องนี้ไม่ต่ำกว่าห้ารอบ และ ‘อิน’ จนถึงขนาดพยายามทำท่าทางเลียนแบบ \u003cstrong\u003eโรส\u003c/strong\u003e กับ \u003cstrong\u003eแจ็ค\u003c/strong\u003e ที่ยืนกางแขนโอบกอดกันอยู่บนหัวเรือ ด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความสุข\u003c/p\u003e\u003cp\u003eหรือจะเป็นเหตุการณ์สำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์ที่กระทบกับชีวิตของผู้คนในญี่ปุ่น ไปจนถึงโลกทั้งใบ ที่ทำให้เราได้หวนมองย้อนอดีต และเห็นถึงทัศนคติ/วิถีชีวิตของมนุษย์ที่เปลี่ยนผ่านมาตลอดยี่สิบปี เช่น สงครามอิรักช่วงยุค 2000s ที่รัฐบาลญี่ปุ่นส่งกองทัพเข้าไปร่วมขบวนกับสหรัฐอเมริกาด้วย, เหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิครั้งใหญ่ในโทโฮคุ ที่เกิดขึ้นในวันที่ 11 มีนาคม 2011 จนถูกเรียกว่าเหตุการณ์ 311 และการแพร่ระบาดของโควิด-19 นับจากปี 2020 เป็นต้นมา – ซึ่งการเปลี่ยนผ่านทางสังคมเหล่านี้มีส่วนไม่มากก็น้อยต่อเส้นทางชีวิตของทั้งยาเอะและฮารุมิจิ\u0026nbsp;\u003c/p\u003e\u003cp\u003eรวมทั้งทำให้พวกเขาได้เห็นถึงความหมายอันลึกซึ้งของ ‘ความสัมพันธ์’ ที่พวกเขามีต่อกัน หรือมีต่อคนรอบข้าง ในห้วงเวลานั้นๆ ด้วย\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cimg src=\”https://media.thairath.co.th/image/QOhVguxHhSBqPZNhtyhW4Kxx1vsvC9p1V20ZByd27ZHW80e9vA1.jpeg\” data-id=\”102479\” data-url=\”https://media.thairath.co.th/image/QOhVguxHhSBqPZNhtyhW4Kxx1vsvC9p1V20ZByd27ZHW80e9vA1.jpeg\” style=\”width: auto;\” class=\”fr-fic fr-dib\”\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003ch2\u003eร่ำไห้ด้วยนักแสดงรุ่นเก๋าและรุ่นเยาว์ ที่เข้าถึงบทบาทตัวละครผู้ถูกชีวิตโบยตี\u003c/h2\u003e\u003cp\u003eแน่นอนว่านักแสดงที่มารับบทบาทในข้างต้นนั้น มีส่วนสำคัญอย่างมากในการผลักให้เรื่องรักอย่าง First Love ออกมาทรงพลังมากพอ จนผู้ชมอย่างเราต้องร่ำไห้ไปกับชะตากรรมทั้งดีและร้ายของตัวละคร\u003c/p\u003e\u003cp\u003eไม่ว่าจะเป็น \u003cstrong\u003eฮิคาริ มิตสึชิมะ\u003c/strong\u003e ผู้รับบทยาเอะในวัยผู้ใหญ่ -ซึ่งเคยเป็นสมาชิกวงป๊อปกรุ๊ปที่ชื่อ \u003cstrong\u003eFolder\u003c/strong\u003e ในช่วงปลายยุค 90s (ซึ่งก็ถือว่าเป็นรุ่นไล่เลี่ยกับอูทาดะ) ก่อนจะหันเหเข้าสู่แวดวงการแสดงโดยสามารถคว้ารางวัลจากภาพยนตร์อย่าง \u003cstrong\u003eLove Exposure\u003c/strong\u003e (2009) และ \u003cstrong\u003eSawako Decides\u003c/strong\u003e (2010) มาได้- ที่สามารถถ่ายทอดบทของคุณแม่ลูกหนึ่งที่ต้องแยกออกมาอยู่ตามลำพัง และยังต้องดิ้นรนขับแท็กซี่เพื่อหาเลี้ยงตัวเอง พร้อมๆ กับส่งเงินให้ลูก รวมถึงการเป็นคนโชคร้ายที่ถูกชะตากรรมพรากเอารักแรกและความฝันในวัยเยาว์ไปจนหมดสิ้น ออกมาได้อย่างละเอียดลออลึกซึ้ง จนทำให้เราสงสารและอยากเอาใจช่วย\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003cdiv class=\”fr-img-space-wrap\”\u003e\u003cspan class=\”fr-img-caption fr-fic fr-dib fr-draggable\” contenteditable=\”false\” draggable=\”false\” style=\”width: 815px;\”\u003e\u003cspan class=\”fr-img-wrap\”\u003e\u003cp\u003e\u003cimg src=\”https://media.thairath.co.th/image/QOhVguxHhSBqPZNhtyhW4CdDfR5wU6mXyIwYFpwS50Ae9vA1.jpeg\” data-id=\”102479\” data-url=\”https://media.thairath.co.th/image/QOhVguxHhSBqPZNhtyhW4CdDfR5wU6mXyIwYFpwS50Ae9vA1.jpeg\” style=\”width: auto;\” class=\”fr-fic fr-dib\”\u003e\u003cspan class=\”fr-inner\” contenteditable=\”true\”\u003e\u003cem\u003e\u003cspan style=\”font-size: 12px;\”\u003eริคาโกะ กับ ไทเซ\u003c/span\u003e\u003c/em\u003e\u003c/span\u003e\u003c/p\u003e\u003c/span\u003e\u003c/span\u003e\u003cp class=\”fr-img-space-wrap2\”\u003e\u0026nbsp;\u003c/p\u003e\u003c/div\u003e\u003cp\u003e\u003cstrong\u003eไทเซ คิโดะ\u003c/strong\u003e ผู้รับบทฮารุมิจิในวัยรุ่น -ซึ่งเป็นนักแสดงหนุ่มดาวรุ่งเจ้าของรอยยิ้มเจิดจรัสที่เล่นหนังเรื่องล่าสุดอย่าง \u003cstrong\u003eWhat to Do with the Dead Kaiju?\u003c/strong\u003e (2022) มาก่อน- ที่ความสดใสร่าเริงปนดื้นรั้นที่เขาแสดงออกมานั้น ได้ช่วยทำให้ตัวละครของเขาส่องประกายเสน่ห์อันล้นเหลือ รวมถึงแสดงความเป็นผู้ชายแบบ ‘แข็งนอกอ่อนใน’ ของฮารุมิจิออกมาได้อย่างหมดจด จนผู้ชมต้องตกหลุมรักเขา-ไม่ต่างจากที่ยาเอะเป็น และขณะเดียวกันนั้น ไทเซก็ยังทำให้ผู้ชมมองเห็นถึงมิติอื่นๆ ในชีวิตของฮารุมิจิ อาทิ ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและแสนดีที่เขามีต่อคนรอบข้าง ทั้งกับน้องสาวผู้เป็นใบ้ที่เขาห่วงใย และกับคนรักอย่างยาเอะที่เขามอบหัวใจให้\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cimg src=\”https://media.thairath.co.th/image/QOhVguxHhSBqPZNhtyhW4LsGN6X6sNv94qJp1V2t9FrAywe9vA1.jpeg\” data-id=\”102479\” data-url=\”https://media.thairath.co.th/image/QOhVguxHhSBqPZNhtyhW4LsGN6X6sNv94qJp1V2t9FrAywe9vA1.jpeg\” style=\”width: auto;\” class=\”fr-fic fr-dib\”\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cstrong\u003eทาเครุ ซาโตะ\u003c/strong\u003e (จากแฟรนไชส์หนัง Rurouni Kenshin) ที่รับบทฮารุมิจิในวัยผู้ใหญ่ได้อย่างกร้านกร้าว แต่ก็ยังแฝงสภาวะเปราะบางทางใจที่เขาเก็บเอาไว้กับตัวเองมานานเป็นสิบปี ทุกครั้งที่เขานึกถึงรักแรกที่ต้องห่างหายไปจากชีวิต ซึ่งเราจะเห็นได้จากในหลายๆ ฉากที่ชายชาติทหารเขาต้องพยายามกลั้นน้ำตา และกล้ำกลืนเพื่อกักเก็บความอ่อนแอภายในจิตใจของตัวเองเอาไว้\u0026nbsp;\u003c/p\u003e\u003cp\u003eและ \u003cstrong\u003eริคาโกะ ยากิ\u0026nbsp;\u003c/strong\u003e(จากซีรีส์ We Are Rockets! และ The Girl Who Leapt Through Time) ที่แสดงด้านอันอ่อนโยนแต่ก็เข้มแข็ง ไร้เดียงสาแต่ก็เปิดกว้าง และสามารถดูแลตัวเองได้ ของตัวละครยาเอะในช่วงวัยรุ่นออกมาอย่างละมุมละไม จนไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมฮารุมิจิถึงหลงรักเด็กสาวคนนี้ตั้งแต่แรกเจอ และมองว่าเธอเป็นเสมือนแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อที่จะสามารถดูแลผู้หญิงที่เขารักได้\u003cbr\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003eยังไม่รวมถึงเหล่านักแสดงผู้รับบทตัวละครสมทบ ที่มาช่วยสร้างความหนักแน่นและสีสันให้เรื่องราวยิ่งกลมกล่อมลงตัว ทั้ง \u003cstrong\u003eโทวะ อารากิ\u003c/strong\u003e ในบท \u003cstrong\u003eซุซูรุ\u003c/strong\u003e ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของยาเอะที่หลงใหลในการทำเพลงมากกว่าการสอบเป็นหมอ, \u003cstrong\u003eกาคุ ฮามาดะ\u003c/strong\u003e ในบทเพื่อนคนขับแท็กซี่สายเปิ่นเฉิ่มที่ดันมาแอบชอบยาเอะเข้า, นักแสดงรุ่นใหญ่ \u003cstrong\u003eเคียวโกะ โคอิซูมิ\u003c/strong\u003e ในบทแม่ของยาเอะ ที่ถึงจะดูเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่ก็ยังแอบบงการชีวิตลูกสาวในบางเวลา, \u003cstrong\u003eคาโฮะ\u0026nbsp;\u003c/strong\u003eในบทแฟนสาวนักจิตบำบัดปากหนักของฮารุมิจิ หรือกระทั่ง \u003cstrong\u003eอาโออิ ยามาดะ\u0026nbsp;\u003c/strong\u003eในบทนักเต้นสาวลึกลับหน้าเฉี่ยวที่ซุซูรุแอบปลื้มจนถอนตัวไม่ขึ้น เป็นต้น\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cimg src=\”https://media.thairath.co.th/image/QOhVguxHhSBqPZNhtyhW4JcUa496PXu9oJ2cw4EspD8e9vA1.jpg\” data-id=\”102479\” data-url=\”https://media.thairath.co.th/image/QOhVguxHhSBqPZNhtyhW4JcUa496PXu9oJ2cw4EspD8e9vA1.jpg\” style=\”width: auto;\” class=\”fr-fic fr-dib\”\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003ch2\u003eร่ำไห้ด้วยเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่แปรผัน และความฝันที่ต้องถอดใจไปกลางทาง\u0026nbsp;\u003c/h2\u003e\u003cp\u003eแต่องค์ประกอบสำคัญที่สุดที่ทำให้ผู้ชมหลายคนร้องไห้ขณะดู First Love ก็น่าจะมาจากเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน แสนอึดอัด และเต็มไปด้วยอุปสรรคของกลุ่มตัวละครผู้น่าสงสารเหล่านี้\u0026nbsp;\u003c/p\u003e\u003cp\u003eทั้งเรื่องรักระหว่างยาเอะกับฮารุมิจิอันเป็นแกนหลักของซีรีส์ ที่เริ่มต้นด้วยความพยายามของทั้งคู่ที่จะมีความรักอันสดใสและเป็นกำลังใจให้แก่กันไปตลอด ก่อนที่พวกเขาจะถูกทดสอบด้วยปัญหานานัปการ จากการถูกแยกให้ไกลกันด้วยภาระหน้าที่ (ยาเอะเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนฮารุมิจิต้องไปเป็นทหาร), อุบัติเหตุทางกายภาพบางอย่างที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของพวกเขา, ความปรารถนาดีของแม่ยาเอะที่อยากให้ลูกสาวมีอนาคตที่สุขสบายกว่าตัวเธอเองผ่านการแต่งงานกับผู้ชายอีกคนที่รวยกว่า ไปจนถึงความรักครั้งใหม่ของฮารุมิจิในวันที่เขาต้องห่างร้างกับยาเอะมานานเกินไป – จนกระทั่งพวกเขาสองคนได้ถูกสายลมแห่งโชคชะตาพัดพาให้ต้องกลายเป็นเพียง ‘คนแปลกหน้า’ ของกันและกัน\u003c/p\u003e\u003cp\u003eโดยนอกจากการแจกแจง ‘รักแรกที่ไม่สมหวัง’ จนจุกอกผู้ชมกันอย่างทั่วหน้าแล้ว การที่ซีรีส์ได้แฝงปมปัญหาต่างๆ ที่มาพร้อมกับนิยามของคำว่า ‘ครอบครัวที่เหมาะสม’ เอาไว้ ก็ยังทำให้เราได้ขบคิดตามไปด้วย ผ่านการมองปัญหาในครอบครัวของยาเอะ ที่การเป็นห่วงเป็นใยอนาคตของลูกสาวจนล้นเกินในบางจังหวะของแม่ ได้ทำให้ลูกสาวถูกชะตากรรมพัดพาเข้าไปในชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง ทั้งๆ ที่ตัวแม่เองก็ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เธอทำนั้นถูกต้องไหม หรือจะเป็นครอบครัวของยาเอะกับสามีผู้เป็นศัลยแพทย์เอง ที่ต่างคนต่างมีทัศนคติและวิถีชีวิตที่ต่างกันเกินไป แต่ฝ่ายหนึ่งก็กลับปล่อยให้อีกฝ่ายต้องคอยอดทนและปรับตัวอยู่เพียงผู้เดียว จนในที่สุด ฝ่ายที่ต้องมีชีวิตให้ได้ตาม ‘มาตรฐานครอบครัว’ ของอีกฝ่ายนั้น ก็เจ็บปวดจนเกินจะทน และนำไปสู่การหย่าขาดจากกัน\u0026nbsp;\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003cdiv class=\”elle_quote\” data-component=\”quote\” data-id=\”2fe25be0-1dbb-43a7-9117-141a1052a006\”\u003e\u003cp class=\”blockquote\”\u003eเมื่อได้เห็นความฝันจากวัยเยาว์ของตัวละคร ค่อยๆ ถูกทำลายหรือเลือนหายไป หลังจากที่พวกเขาได้พานพบความเป็นจริงอันโหดร้ายของชีวิต ในฐานะ ‘ผู้ใหญ่’ คนหนึ่ง ผู้ชมอย่างเราจึงน่าจะอดรนทนไม่ได้อีกต่อไป แล้วปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา ด้วยค่าที่เราเองก็อาจเคยต้องละทิ้งความฝันบางอย่างไปในระหว่างทางไม่ต่างกัน\u003c/p\u003e\u003c/div\u003e\u003cp\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003eรวมถึง ‘ความฝัน’ ในชีวิตของตัวละคร ที่พวกเขาต้องยอม ‘ถอดใจ’ แล้วละทิ้งมันไว้ตรงกลางทาง ทั้งยาเอะที่เคยฝันอยากเป็นแอร์โฮสเตส หรือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และฮารุมิจิที่เคยต้องการจะเป็นนักบินเพื่อตอบสนองความฝันของผู้หญิงที่เขารักอีกทอดหนึ่ง ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า หลังจากที่ทั้งคู่ผ่านเรื่องราวกันมามากมายจนโตเป็นผู้ใหญ่ในอีกสิบยี่สิบปีถัดมา ยาเอะก็เลิกล้มความตั้งใจนั้น แล้วหันมาเป็น ‘แม่’ และ ‘เมีย’ ที่ดีให้ได้ตามมาตรฐานอยู่หลายปี ก่อนจะตัดสินใจหย่า และออกมาอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง โดยมีแค่ ‘ความสุขของลูก’ เป็นเพียงเป้าหมายหนึ่งเดียวในชีวิต\u0026nbsp;\u003c/p\u003e\u003cp\u003eขณะที่ในฝั่งของฮารุมิจิ แม้เขาจะพยายามสานฝันของอดีตคนรักต่อด้วยการเป็นนักบินในกองทัพ แต่ด้วยประสบการณ์อันเลวร้ายจากสงคราม การถูกกีดกันจากแม่ของยาเอะ และความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของตัวเขาเองที่มีแต่เรื่องให้ต้องปรับจูน ก็ทำให้เขาหมดใจที่จะเป็นนักบินตามความฝันของอดีตรักแรก และกลายมาเป็นเพียงพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ทำงานไปวันๆ \u0026nbsp;\u003c/p\u003e\u003cp\u003e– ซึ่งเมื่อได้เห็นความฝันจากวัยเยาว์ของตัวละคร ค่อยๆ ถูกทำลายหรือเลือนหายไป หลังจากที่พวกเขาได้พานพบความเป็นจริงอันโหดร้ายของชีวิต ในฐานะ ‘ผู้ใหญ่’ คนหนึ่ง ผู้ชมอย่างเราจึงน่าจะอดรนทนไม่ได้อีกต่อไป แล้วปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา ด้วยค่าที่เราเองก็อาจเคยต้องละทิ้งความฝันบางอย่างไปในระหว่างทางไม่ต่างกัน\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cimg src=\”https://media.thairath.co.th/image/zU1ZXBF1RgdQhH6frz6BnoLBxeGuR4us1a2h2UQKLBS69C0e9vA1.jpg\” data-id=\”102479\” data-url=\”https://media.thairath.co.th/image/zU1ZXBF1RgdQhH6frz6BnoLBxeGuR4us1a2h2UQKLBS69C0e9vA1.jpg\” style=\”width: auto;\” class=\”fr-fic fr-dib\”\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003cp\u003eด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ที่สอดประสานเข้ากันอย่างแข็งแรงและกลมกล่อม ก็ทำให้ First Love สามารถเข้าไปกระทุ้งและเปิดลิ้นชักแห่งความทรงจำของใครก็ตามที่ได้รับชม ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ หรือคนรุ่นใหม่\u003c/p\u003e\u003cp\u003eเพื่อให้เราต่างได้หวนรำลึกที่เรื่องที่เคยตัดสินใจ หรือทำผิดพลาดไปกับใครบางคน\u003c/p\u003e\u003cp\u003e\u003cstrong\u003eรวมถึงใครอีกบางคนในอดีตที่เคยเป็น ‘แรงใจ’ ให้เราได้ก้าวเดินมาไกลจนถึงวันนี้\u003c/strong
“Author”,”_id”:”60a75857e90c58001245aaa4″,”first_name”:”ธีพิสิฐ”,”last_name”:”มหานีรานนท์”,”profile_image”:”http://media.thairath.co.th/image/7UxFOI8s1a2hPrliyqdMh4c4wACgxSDkfMrg5p1V2SBXBXy5Sge9vA1.jpeg”,”description”:”บรรณาธิการสายไลฟ์สไตล์และศิลปวัฒนธรรม”,”slug_name”:”theepisit-mahaneeranon”}},”topic”:{“__typename”:”Topic”,”_id”:”607e84a5349fd9fb0e5fa3fa”,”value”:”subculture”,”label”:”Subculture”,”desc”:”เชื่อมต่อวัฒนธรรมเพื่อเข้าใจความต่าง”
“Subculture : Empowering diversity แตกต่างอย่างเข้าใจ”,”description”:”สัมผัสความหลากหลาย ทั้งที่เป็นอยู่ เกิดใหม่ และกำลังจะเปลี่ยนไป ผ่านมุมมองทางศิลปะ วัฒนธรรม สื่อบันเทิง รสนิยม และความเชื่อต่างๆ”,
“update_time”:”2021-08-09T15:44:08+07:00″
