ประสบความสำเร็จในหลายๆอย่าง แต่ชีวิตคู่มีปัญหา – Pantip

Source: ประสบความสำเร็จในหลายๆอย่าง แต่ชีวิตคู่มีปัญหา – Pantip

ปัญหาชีวิตปัญหาครอบครัวสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยบ้านประสบการณ์ชีวิตคู่
สวัสดีค่ะ ตอนนี้มีปัญหาหลายๆอย่างเข้ามา ขอเกริ่นก่อนว่า ตัวเราโตมาในสังคมที่ญาติๆคือส่วนมากประสบความสำเร็จ
พอเจอหน้ากันในวันรวมญาติทุกคนก็จะพูดคุยแล้วตอนนั้นคือ ฐานะทางบ้านเราด้อยสุด (พ่อแม่แยกทางกันค่ะ เราอยู่กับทางแม่)
แต่แม่ด้วยความที่ไม่ค่อยมีเงิน สุดท้ายคนส่งเสียเราก็คือตากับยาย เราเลยตั้งใจไว้ว่าพอโตถ้าทำงานได้เราจะทำให้ทุกคนเห็นว่าเราก็ประสบความสำเร็จ

ตอนนี้เราอายุ 34 ปีค่ะ แต่งงานมีครอบครัวแล้ว สามี อายุ 40 ปี มีลูกกัน 3 คน
หน้าที่การงานตำแหน่งคือดีทั้งคู่ค่ะ เงินเดือนรวมกันคือเดือนนึง ก็แสนขึ้นค่ะ มีบ้าน มีรถ ครบค่ะ ส่งลูกเรียนโรงเรียนที่มีชื่อ
ทำให้ตอนนี้คือเรากลายเป็นคนที่ตั้งตัวและมีมากสุดคนนึงในเวลารวมญาติค่ะ ดูทุกอย่างเป็นไปได้สวยแต่คือทุกวันนี้เราเครียดมากค่ะ
ด้วยความที่เราซื้อบ้านเดี่ยว เดือนนึงผ่อนบ้าน+ผ่อนรถ ตกแล้วเดือนนึง 5 หมื่นกว่าๆ ยังไม่รวมค่าเทอม ค่าเรียนพิเศษลูก ค่าบัตร ค่ากินอยู่แต่ละคน
เดือนนึงตอนนี้แทบหมุนเงินไม่ทัน มีปากเสียงทะเลาะกับสามีบ่อยมาก ด้วยความที่ว่า สามีเครียดกับที่ทำงานอยากออก แต่ไม่สามารถออกได้
เพราะที่ทำงานตรงนี้เงินเดือนดี แล้วคุยกันก็จบด้วยทะเลาะ เป็นแบบนี้บ่อยครั้งมากค่ะ เราพยายามปลอบสามีว่าเราสร้างทุกอย่างมาตอนนี้
ให้ใจเย็นๆให้อดทน ที่ซื้อบ้านเดี่ยวเพราะเรามองว่าทำเลตอนนี้ อีก 10-20 ปี ตรงนี้ราคาจะไม่ได้ขนาดนี้ ราคาบ้านมีแต่ขึ้น
ส่วนรถเราอยากได้รถครอบครัว ครั้งหนึ่งในชีวิตเราอยากมี แล้วไปไหนสบาย ถ้าเราอดทน ทำตอนนี้ผ่อนทุกอย่างที่มีกำลัง อีกหน่อยเดี๋ยวก็จบค่ะ

แต่สามีเราบอกว่า ทำไมเราต้องไปสนใจคนอื่น เค้าตื่นมาไม่มีวันไหนที่เค้าไม่เครียด เค้าต้องมานั่งคิดว่าเดือนนี้เงินเดือนจะพอใช้ไหม ใช้บัตรเครดิต
วนลูปชีวิตแบบนี้ เค้าอยากมีบั้นปลายชีวิตที่สบาย มีเงินเก็บเยอะๆ แต่กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ต้องมานั่งคิดทุกวัน ผ่อนนั่นนี่ ไหนจะลูกอีก
เวลาเจอญาติ เราก็แค่ได้หน้าทุกคนชมแค่ตอนนั้น แต่สุดท้ายไม่มีใครเค้ามานั่งสนใจชีวิตเราจริงๆหรอกว่าจะยังไง เค้าเหนื่อย เค้าอยากขายบ้าน
เราพยายามอธิบายสามี ว่าที่เราสร้างมาตอนนี้ก็เพื่อครอบครัว ตอนนี้ถึงจะหนักหน่อย แต่เดี๋ยวก็จะผ่านพ้นไปได้ ตอนนี้เรามาอยู่ในจุดที่เรามาไกลมาก
เราประสบความสำเร็จ เราไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร ถ้าวันนึงลูกโตมาเวลาเจอรวมญาติลูกเราก็จะไม่ได้รู้สึกแบบเรา เราไม่อยากให้ลูกโตมาแล้วเจอสังคมแบบตอนเราเด็กๆเวลารวมญาติ
1 26
สมาชิกหมายเลข 7407169
วันศุกร์ เวลา 11:12 น.
สมาชิกหมายเลข 6545540 สยอง, สมาชิกหมายเลข 910180 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2236089 สยอง, ไวน์อุ่น สยอง, สมาชิกหมายเลข 5021567 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ซึ้ง, zealottan ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 2208824 สยอง, Love Wichio สยอง, Fiddle Fig สยองรวมถึงอีก 16 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
คุณเป็นแบบที่สามีคุณว่านั่นแหละครับ

เอาแต่หน้า แต่ไม่สนใจความเป็นจริง
ขายบ้าน ซื้อหลังเล็กลง ย้ายโรงเรียนลูก ลดค่าใช้จ่ายดีกว่าครับ

เพราะ ทำงานเครียด หาเงิน อายุเลย 60 โรคจะรุมเร้า สุดท้ายไม่มีเงินรักษา
สู้ทำงานแบบสบายใจ แล้วอยู่นานๆ ไม่ดีกว่าเหรอครับ รักษาหน้า แต่ต้องเสียเงินรักษาโรค ไม่ไหวนะครับ
48 94
neversayso
วันศุกร์ เวลา 11:25 น.
สมาชิกหมายเลข 6545540 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5227791 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4586385 ถูกใจ, kapho_27 ถูกใจ, Ja lil a ถูกใจ, ทุเรียนรสเผือก ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1787498 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2236089 ถูกใจ, NaeNaee ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2316757 ถูกใจรวมถึงอีก 84 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 21
มีลูกตั้งหลายคน ภาระก็ทั้งผ่อนบ้านผ่อนรถ เอาอะไรมาคิดว่าตัวเองชีวิตดี

เงินเดือนแสนเศษๆเนี่ยไม่ได้เยอะเลยนะ ตกคนละ 5-6 หมื่น ก็ระดับกลางๆอ้ะ

ถ้าสามีคุณเงินเดือน 300,000 ก็ว่าไปอย่าง

ถ้าหาเพิ่มกว่านี้ไม่ได้ ก็ต้องลดรายจ่าย สงสารเด็กๆนะ พ่อแม่ทะเลาะกันทุกวัน เด็กก็เครียด
28 53
KHIMM
วันศุกร์ เวลา 12:39 น.
Ja lil a ถูกใจ, ทุเรียนรสเผือก ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1787498 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2236089 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3422241 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5298823 ถูกใจ, poltanapol ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3630420 ถูกใจ, นี่แม่เอง ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจรวมถึงอีก 43 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 12
มาตอบในฐานะสามีและพ่อคนเหมือนกัน…

ถ้ารายได้รวมกันแสนกว่ายังใช้เดือนชนเดือน…. เครียดครับ

เครียดยังไงนะหรือ… เหมือนเดินอยู่บนเชือกครับ วันดีคืนดี ก็จะมีลมพัดมาแรงๆที (ค่าประกัน ค่าส่วนกลางหมู่บ้าน ค่าเทอมลูก ค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล ค่ามือถือใหม่ คอมพ์ใหม่ ฯลฯ …) แล้วที่ว่าทนเหนื่อยหน่อยนะ เกิน 10 ปีครับ… ถ้าเดินตกเชือกแล้ว ไม่ได้ตายนะครับ… แต่ หมายถึง โดนยึดบ้าน ยึดรถ และลูกทั้ง 3 คนต้องออกจากโรงเรียนครับ ตายทั้งเป็นเลยครับ

8 20
wanchale
วันศุกร์ เวลา 12:10 น.
สมาชิกหมายเลข 3630420 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, SpicyTuna ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 2208824 ถูกใจ, Fiddle Fig ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2611873 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6539325 ถูกใจ, มิสเตอร์ D I Y ถูกใจรวมถึงอีก 10 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 3
ความอยากและไม่ประมาณตน ทำให้ครอบครัวคุณเดินมาถึงจุดนี้ จุดที่กำลังมีปัญหาด้านการเงิน ต้องขออภัยที่พูดตามตรง … ระหว่างสุขภาพจิตสามีและความราบรื่นของครอบครัว กับ หน้าตาที่แบกไว้ … อะไรสำคัญกว่ากันครับ

ความสำเร็จที่คุณภาคภูมิใจ มันยังเป็นแค่ภาพลวงตาอยู่ ยังไม่มีอะไรเป็นของคุณอย่างแท้จริง ภาระอันหนักอึ้งยังอีกยาวไกล

ชีวิตคือการเดินทางไกลครับ ควรแบกเฉพาะสิ่งที่จำเป็นและแบกไหวไปด้วย การแบกของหนักเกินไปและเกินจำเป็นทำให้เหนื่อยและท้อ ไม่มีความสุข แถมเพื่อนร่วมทางอาจถอดใจ โยนของทิ้งบ้างชีวิตก็จะเบาลง … ฝากไว้ให้คิดครับ
8 35
สมาชิกหมายเลข 933113
วันศุกร์ เวลา 11:31 น.
kapho_27 ถูกใจ, Ja lil a ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2236089 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5298823 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3630420 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2134370 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3182374 ถูกใจรวมถึงอีก 25 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 37
เงินเดือนสองคนรวมกันแสนขึ้น … ก็ตกคนละ 5 – 7 หมื่นบาท .. สำหรับผม มันไม่ได้เยอะเลยนะ

ผมอยู่คนเดียว ไม่มีครอบครัว เงินเดือนแสนอัพ เวลาจะใช้เงินที ผมยังคิดแล้วคิดอีก ทุกวันนี้ มีแค่ผ่อนบ้าน 2 หลัง ส่วนรถเคลียร์จบหมดแล้ว ของคุณมีบ้าน มีรถ มีลูก แล้วรายได้มาจากคน 2 คนรวมกัน หุหุ

ผมไม่เคยมีหน้าตา ไม่เคยสนใจใคร ด้วย

ตำแหน่งผม คือ ผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ที่ทุกคนรู้จัก แต่ทุกวันนี้ ผมบิดมอไซค์แม่บ้านเก่าๆไปทำงาน ถ้าประชุมที่โรงแรมตรงข้ามบริษัท ประชุมกับเจ้าของบริษัท ก็ยังบิดมอไซค์นั่นแหละ เป็นภาพที่ทุกคนเห็นจนชินตา

เจอญาติพี่น้องเหรอ ? .. ก็ขับรถ มีรถ 3 คัน รถญี่ปุ่นธรรมดาไม่ได้หรูหราอะไร ไม่มีใครมานั่งมองรถ ไม่มีใครมาถามเรื่องเงินเดือน

น้องสาวผม เงินเดือนมากกว่าผม 5 เท่า ยังขับรถรุ่นเดียวกับผม แต่โทรมกว่ารถผมอีก แต่แน่นอนบ้านที่เค้าอยู่ คอนโดที่เค้าอยู่ การใช้สอยต่างๆก็ตามฐานะเค้าแหละ

แต่ทุกคน ไม่เคยเอามาอวดว่า ชั้นรวยกว่า ชั้นเก่งกว่า ชั้นประสบความสำเร็จกว่า

ผมไม่เคยเทียบกับน้อง เพราะไม่มีทาง แต่ผมก็บริหารชีวิตผม ในจุดที่เป็นไปได้และเหมาะสม ผมวางแผนสำหรับตอนเกษียณอายุ ตั้งแต่อายุ 40 ปี ผมซื้อบ้าน ผมวางแผนรายได้หลังเกษียณ ผมคาดหวังว่า หลังเกษียณแล้ว ผมจะมีเวลา มีเงินใช้ โดยไม่ต้องทำงาน อยู่กับ รถที่ผมรัก อยู่กับบ้านที่ผมชอบ แค่นี้มีความสุขละ ไม่ต้องไปอวดหรือแข่งกับใครเขา
7 14
เด็กบูรพา
วันศุกร์ เวลา 13:41 น.
สมาชิกหมายเลข 999870 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7268847 ถูกใจ, dxxa ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3422241 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7331349 ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 3630420 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, CPLK13 ถูกใจรวมถึงอีก 4 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
149 ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ใครใครก็อยากมีชีวิตที่ดีทั้งนั้น แต่สิ่งที่คุณสร้างอาจจะเกินตัวไปหน่อย พูดตรงๆ มันคือหนี้สินไม่ใช่ทรัพย์สิน รถเป็นของไฟแนนซ์ ส่วนบ้านเป็นของธนาคาร ยังไม่มีชิ้นไหนเป็นของคุณเลย

ใดใดคือสามีคุณแสดงออกถึงความเครียดและไม่ไหว คุณควรใส่ใจเรื่องนี้มากกว่าเรื่องอื่นๆ ของนอกกายหาใหม่ได้ค่ะ ถ้ายืนกรานต่อไป อาจจะเสียใจทีหลังค่ะ
ตอบกลับ
6 30
รู้หน้าไม่รู้ใจ
วันศุกร์ เวลา 11:21 น.
สมาชิกหมายเลข 999870 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4586385 ถูกใจ, แม่น้องหยง ถูกใจ, Small_Unit ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5298823 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, เทมปุระ ถูกใจ, PretendPlayer ถูกใจ, kdunagin ถูกใจ รวมถึงอีก 20 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 2
คุณเป็นแบบที่สามีคุณว่านั่นแหละครับ

เอาแต่หน้า แต่ไม่สนใจความเป็นจริง
ขายบ้าน ซื้อหลังเล็กลง ย้ายโรงเรียนลูก ลดค่าใช้จ่ายดีกว่าครับ

เพราะ ทำงานเครียด หาเงิน อายุเลย 60 โรคจะรุมเร้า สุดท้ายไม่มีเงินรักษา
สู้ทำงานแบบสบายใจ แล้วอยู่นานๆ ไม่ดีกว่าเหรอครับ รักษาหน้า แต่ต้องเสียเงินรักษาโรค ไม่ไหวนะครับ
ตอบกลับ
48 94
neversayso
วันศุกร์ เวลา 11:25 น.
สมาชิกหมายเลข 6545540 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5227791 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4586385 ถูกใจ, kapho_27 ถูกใจ, Ja lil a ถูกใจ, ทุเรียนรสเผือก ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1787498 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2236089 ถูกใจ, NaeNaee ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2316757 ถูกใจ รวมถึงอีก 84 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 2-1
ตอนตกลงจะซื้อ ได้ปรึกษาคุยกันก่อนแล้วค่ะ แต่ก็ไม่รู้ทำไมพอซื้อแล้วเป็นแบบนี้
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 7407169
วันศุกร์ เวลา 14:19 น.
ความคิดเห็นที่ 2-2
2-1 มันไม่แปลกที่ก่อนหน้าจะลองซื้อจริงๆ คนอยากได้เขาก็คิดว่ามันไหว เออ ลองดูซักตั้ง แต่ทีนี้พอเขามาสัมผัสชีวิตการผ่อนแล้วเขาจะรู้สึกไม่ไหว มันไม่แปลกเลยนะ คนเราจะไม่เหลือพื้นที่ให้การตัดสินใจผิดพลาดเลยเหรอ
ต่อมาพอเขาเริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัดสินใจผิด เขาปรึกษาคุณที่เป็นคู่ชีวิตที่ควรจะทำให้ความเครียดเขาลดลง คุณดันไปกดดันเขาเพิ่มอีกเพราะปมในใจของคุณ ลองคิดดูว่าถ้านี่แฟนของคุณเดินมาพร้อมของหนัก 100 กิโล เขาบอกคุณเขาแบกไม่ไหวแล้ว คุณก็คงบอกให้เขาวาง จะถือไว้ทำไม บ้ารึเปล่า? ของที่ถือก็ไม่ใช่ของที่จำเป็นกับชีวิตขนาดนั้น คือสามารถลดน้ำหนักมันลงได้น่ะ และคุณก็รู้ว่าถ้าคนเราถือของหนักโดยที่ร่างกายไม่แข็งแรงพอ มันก็มีแต่จะทำร้ายร่างกายตัวเองใช่ไหม?? แต่ทำไมกับหนี้ก้อนนี้คุณถึงกดดันให้เขาต้องแบกมันต่อไปล่ะ??

เอาเป็นว่าจขกท.เลิกงอแงเถอะว่าคุยกันแล้วอะไรงี้ คือคนเรามันตัดสินใจผิดกันได้ มันมองเกมส์ไม่ขาด ผิดพลาดกันได้ แต่สิ่งสำคัญคือคู่ชีวิตอย่างคุณคิดจะเข้าใจเขาบ้างหรือเปล่า?
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 19:15 น.
ตอบกลับ
6 22
สมาชิกหมายเลข 1034916
วันศุกร์ เวลา 17:39 น.
สมาชิกหมายเลข 4586385 ถูกใจ, คุณหนูหน้านิ่ง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2236089 ถูกใจ, เย็นนี้ทานอะไรดี ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3422241 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5298823 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1083793 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, The leaves ถูกใจ, zealottan ถูกใจ รวมถึงอีก 12 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 2-3
จขกท ไปทำงานหาเงินเพิ่มสิ ย้ายงานก็ได้ ถ้าลูกคนเดียวแสนเศษๆนี่ยังไม่ตึง ปล่อยมาตั้งสามคน ยังจะเอาทุกอย่าง
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 20:11 น.
ตอบกลับ
0 1
สมาชิกหมายเลข 801640
วันศุกร์ เวลา 20:11 น.
สมาชิกหมายเลข 3422241 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 2-4
มีคนตอบแทนแล้ว คุณเอาแต่หน้าจริงๆนั้นแหละ
เล่าบ้านผมให้ฟัง ลูก 3 คน ไม่มีบ้าน อยู่บ้านพักราชการ ผมกับแฟนเงินเดือน 2 หมื่นทั้ง 2 คน ผมหานอกได้เดือนหนึ่งหมื่นอัพ แฟนไม่มีภาระอะไรเลยช่วยจ่ายโน้นจ่ายนี้ตามประสา ค่าน้ำมัน ค่าเลี้ยงลูก ค่าน้ำค่าไฟ ผ่อนรถอะไร ผมจ่ายให้หมด ลูกเรียนแต่โรงเรียนรัฐทุกคน รถก็พอขี่ได้ ชีวิตมีแต่ความสุขเรื่องเงินไม่เคยทะเลาะกัน อยากกิน อยากซื้ออะไรได้หมด ไปเที่ยวทีนึงผมจะให้เงินก่อน 2-3 หมื่นก็ไปจบเหนือใต้ ใครจะดีจะเด่นจะด้อยยังไง ไม่เคยสนใจ มีเงินในกระเป๋าซักหมื่นอยากซื้ออะไรกินตามใจก็มีความสุขเหลือแล้ว ยิ่งบ้านเราไม่ชอบของหรู ตลาดเปืดท้ายะกำไป500 ก็หิ้วมากินกันเหลือแล้ว
ตอบกลับ
0 7
สมาชิกหมายเลข 1221828
วันศุกร์ เวลา 20:38 น.
สมาชิกหมายเลข 4586385 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1083793 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7387281 ถูกใจ, น้องน้อยคอยกวน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4436391 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 3
ความอยากและไม่ประมาณตน ทำให้ครอบครัวคุณเดินมาถึงจุดนี้ จุดที่กำลังมีปัญหาด้านการเงิน ต้องขออภัยที่พูดตามตรง … ระหว่างสุขภาพจิตสามีและความราบรื่นของครอบครัว กับ หน้าตาที่แบกไว้ … อะไรสำคัญกว่ากันครับ

ความสำเร็จที่คุณภาคภูมิใจ มันยังเป็นแค่ภาพลวงตาอยู่ ยังไม่มีอะไรเป็นของคุณอย่างแท้จริง ภาระอันหนักอึ้งยังอีกยาวไกล

ชีวิตคือการเดินทางไกลครับ ควรแบกเฉพาะสิ่งที่จำเป็นและแบกไหวไปด้วย การแบกของหนักเกินไปและเกินจำเป็นทำให้เหนื่อยและท้อ ไม่มีความสุข แถมเพื่อนร่วมทางอาจถอดใจ โยนของทิ้งบ้างชีวิตก็จะเบาลง … ฝากไว้ให้คิดครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 16:22 น.
ตอบกลับ
8 35
สมาชิกหมายเลข 933113
วันศุกร์ เวลา 11:31 น.
kapho_27 ถูกใจ, Ja lil a ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2236089 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5298823 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3630420 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2134370 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3182374 ถูกใจ รวมถึงอีก 25 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 4
ดีใจด้วยที่คุณพอใจกับความเป็นอยู่ และภูมิใจว่าประสบความสำเร็จนะครับ ถือว่ามีความสุขแล้วล่ะ
แต่ผมว่าคุณกำลังมีปัญหาเรื่องเงินนะ ที่ทะเลาะกันก็เพราะเรื่องนี้ ชีวิตน่าจะตึงไป ปรับความเข้าใจ เอาใจใส่สามีเยอะๆนะครับ การทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ นี่ทุกข์มากเลยละครับ
ตอบกลับ
2 4
หมูขี้เซา
วันศุกร์ เวลา 11:48 น.
สมาชิกหมายเลข 1396525 ถูกใจ, Skybaby ถูกใจ, noonette ถูกใจ, ibster22 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 5
สงสารสามีคุณ คุณแค่อยากได้หน้าได้ตา อยากให้คนอื่นมองว่าประสบความสำเร็จ แต่จริงๆคือความปลอมเปลือก
ตอบกลับ
3 16
สมาชิกหมายเลข 6736542
วันศุกร์ เวลา 11:57 น.
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, เทมปุระ ถูกใจ, Love Wichio ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6539325 ถูกใจ, Taxinvoice ถูกใจ, Would you be able to ? ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2419138 ขำกลิ้ง, Skybaby ถูกใจ, ต่อเวลา ถูกใจ รวมถึงอีก 6 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 6
ใช้เงินเกินตัวสุดๆ
ไอ้บ้านทำเลดีๆก็พอทน แต่จากอายุผ่อนได้อีกนานน่าจะเดือนนึงไม่เท่าไหร่
แต่ผ่อนรถอีก รถเก่าหน่อยมันวิ่งไม่ได้แอร์ไม่เย็น?น้ำรั่ว?? 5คนรถเก๋งเก่าๆคันเดียวมันก็ไปด้วยกันได้ครับไม่มาอ้างอยากได้รถครอบครัว “กิเลส”ล้วนๆอยากมีแบบคนอื่น
ทำตัวเองชัดๆ
ตอบกลับ
2 5
สมาชิกหมายเลข 1418342
วันศุกร์ เวลา 11:59 น.
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6539325 ถูกใจ, *~ Chocolate Factory ~* ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3104737 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 7
คนนอกครอบครัวคุณ คุณจะไปสนใจกว่าคนในครอบครัวคุณมากกว่าอย่างไร เอาให้ครอบครัวเรามีความสุขตามอัตภาพดีกว่าไหมครับ เรามีความทุกข์ คนนอกก็ไม่ได้มาช่วยอะไร จะไปแคร์อะไรครับ
ตอบกลับ
2 4
the_unknow
วันศุกร์ เวลา 11:59 น.
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, Skybaby ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1098521 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 8
เงินเดือนรวมกันประมาณแสนขึ้น มีลูกสามคน จะต้องบริหารเงินค่าใช้จ่ายดีมาก ๆ
การลงเงินกับบ้านเยอะ ทำให้เงินที่จะมาใช้รายเดือนน้อยลง ทำให้ต้องประหยัดและเกิดความอึดอัดในชีวิต

ชีวิตคน ความมั่นคงควรจะเป็นบ่อเกิดหนึ่งแห่งความสุข แต่คุณกลับทำให้ความพยายามให้ได้มาซึ่งความมั่นคงไปสั่นคลอนความสุข
เราว่าระหว่างความมั่นและความสุข ต้องหาจุดสมดุลให้ได้
หากคุณมองข้ามความสุขของสามี แล้วสามีไม่มีความสุขเลยนาน ๆ เป็นหลายปี สารเคมีในสมองจะเปลี่ยนแปลง วันหนึ่งหากสามีเป็นโรคซึมเศร้า ไม่อยากทำงาน ผลกระทบจากการละเลยสภาพจิตใจมันรุนแรงนะ ถ้าไม่เคยเจออาจจะคิดไม่ถึง

เราว่าคุณลองเปิดใจรับฟังสามีคุณสักนิด
หากคุณไม่อยากขายบ้านนี้จริง ๆ และคุณเป็นคนต้องการความมั่นคงนี้ คุณอาจจะต้องยอมลดค่าใช้จ่ายส่วนตัวอย่างอื่น หรือลดค่าเรียนพิเศษลูกมานั่งติวลูกด้วยตัวเอง เพื่อให้สามีได้มีเงินใช้จ่ายส่วนตัวมากขึ้น
ตอบกลับ
0 8
สมาชิกหมายเลข 6937643
วันศุกร์ เวลา 12:01 น.
สมาชิกหมายเลข 3422241 ถูกใจ, nanatsu ถูกใจ, Would you be able to ? ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1098521 ถูกใจ, Restful ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2839687 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3104737 ถูกใจ, จิน ณ จันทร์ ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 8-1
ขอบคุณค่ะ คือเราไม่เข้าใจแค่ว่าตอนก่อนซื้อปรึกษากันแล้ว แล้วทำไมพอซื้อเป็นแบบนี้
ตอบกลับ
0 5
สมาชิกหมายเลข 7407169
วันศุกร์ เวลา 14:20 น.
สมาชิกหมายเลข 2236089 สยอง, It is a life สยอง, สมาชิกหมายเลข 6900637 สยอง, man191 สยอง, ต่อเวลา ทึ่ง
ความคิดเห็นที่ 8-2
ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์นะครับ
ตอบกลับ
0 7
สมาชิกหมายเลข 2839687
วันศุกร์ เวลา 15:18 น.
Ja lil a ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2236089 ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, Skybaby ถูกใจ, noonette ถูกใจ, Restful ถูกใจ, ต่อเวลา ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 8-3
ตอนนี้คุณใช้เหตุผลเลยคิดถึงเรื่องที่เคยตกลงกัน ซึ่งถ้าใช้เหตุผล คุณก็ถูกของคุณ
แต่เรื่องความรู้สึก อยากให้ใช้ใจและความเข้าใจมาก ๆ ถ้าเถียงไปแบบนี้ สามีจะรู้สึกเดียวดายเหมือนอยู่คนเดียวในโลก
ที่ทำงานก็ไม่มีความสุข อย่างน้อยที่บ้านควรมีคนเข้าใจและเป็นความสุข

ถ้าคุณชนะด้วยเหตุผล สามียอมตามหน้าที่ตลอดเวลา อดทนทำสิ่งที่ไม่ชอบ สมองที่ต้องอดทนต่อเนื่อง เผชิญความเครียดต่อเนื่อง สุดท้ายก็เหมือนต้นไม้ขาดน้ำ วันนึงก็ทนไม่ไหว
นึกถึงความรักที่ให้สามี ให้พยายามสมดุลกับความรักที่มีให้ลูก เมฆหมอกบังตาจะหายไปเลยค่ะ
ตอบกลับ
2 9
สมาชิกหมายเลข 6937643
วันศุกร์ เวลา 18:22 น.
สมาชิกหมายเลข 2236089 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2316757 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5298823 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7387281 ถูกใจ, basicguy ถูกใจ, @nastasi@ ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 8-4
ขอถาม จขกท. ค่ะ ตอนซื้อบ้าน/รถมีลูกสามคนแล้วหรือยังคะ ตอนตกลงกันว่าจะซื้ออาจผ่อนไหว แต่ลูกโตขึ้นทุกวัน ค่าใช้จ่ายเยอะขึ้นทุกวัน ตอนนี้ถึงไม่ค่อยไหวแล้วก็ได้ค่ะ
ตอบกลับ
0 1
สมาชิกหมายเลข 6660811
วันศุกร์ เวลา 18:46 น.
สมาชิกหมายเลข 2316757 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 9
เราเป็นคนนึงที่ประสบความสำเร็จในทุกๆเรื่อง เเต่อยากได้อะไรก็ไม่เคยเอาชีวิตคนอื่นมาเปรียบเทียบ ไม่เอาความคิดคนอื่นมาเทียบกับครอบครัวตัวเอง มีเเบบไหน ก็มีความสุขได้ หนี้มีก็ทยอยใช้ เเต่ถ้าอยากได้อยากมีตามคำพูดตามคำดูถูกคนอื่นก็เครียดไปเปล่าๆ
ตอบกลับ
0 2
สมาชิกหมายเลข 4220431
วันศุกร์ เวลา 12:04 น.
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3104737 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 10
ครอบครัวจะพังเพราะปมในใจคุณ

สำหรับผมเห็นด้วยกับที่สามีคุณพูด “สุดท้ายไม่มีใครเค้ามานั่งสนใจชีวิตเราจริงๆหรอกว่าจะยังไง”
ความต้องการประสบความสำเร็จของคุณเป็นรูปแบบที่ต้องใช้เงินทั้งนั้น แล้วคุณมีลูกตั้งสามคนและยังไม่ได้เข้ามหาลัยเลย ต่อให้คุณทำงานแทบตายยังงัยก็ไม่มีวันถมความต้องการเรื่องหน้าตาในสังคมญาติของคุณได้ รายจ่ายคุณเยอะเกินไปแค่ บ้าน รถ ลูก สามสิ่งนี้ก็ถมไม่เต็มแล้วสำหรับคนรายได้แสนกว่า ๆ แล้วจะมีอะไรเหลือมาสำหรับความสุขรายวัน ชีวิตคุณเปราะบางมากถ้าไม่เลือกมีความสุขในวันนี้เลยคุณจะไม่มีความสุขตลอดไป เคยฉุกคิดบ้างมั๊ยว่าถ้าต้องรับภาระทั้งหมดนี่คนเดียวจะเอาไหวมั๊ย ควรเปลี่ยนทัศนคติในการประสบความสำเร็จนะครับ

เวลาคนถามผมว่า ชีวิตผมเจ๋งยังงัย ผมมักจะบอกเขาว่าผมไม่เคยทะเลาะกับเมียเลย และผมรู้สึกตัวเองโชคดีที่มีครอบครัวที่มีความสุข

และขอบอกเลยว่าครอบครัวที่ดีทำให้เราทำงานได้อย่างไม่เครียดแม้ว่างานจะหนัก และเหนื่อย
ตอบกลับ
3 23
สมาชิกหมายเลข 1317894
วันศุกร์ เวลา 12:05 น.
สมาชิกหมายเลข 3422241 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, อารมณ์ดีทุกวัน โดยเฉพาะวันหยุด ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7387281 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5892048 ถูกใจ, PretendPlayer ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6900637 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6539325 ถูกใจ รวมถึงอีก 13 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 11
ขนาดอ่านในมุมมองของคุณ เราก็ยังเข้าข้างสามีคุณเลย แบบนี้ไม่ได้เรียกประสบความสำเร็จเลย เพราะคุณมีแต่หนี้อยู่นะคะ ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลยอะ แถมสามียังต้องมาเหนื่อยมาเครียดอีก มันเรียกประสบความสำเร็จได้ยังไงกัน?!

ถ้าเราเป็นคุณ เราชิงขายบ้านแล้วแน่นอน อยู่เล็กหน่อย ก็ได้ จะได้ผ่อนไม่เหนื่อย อะไรลดได้คือลด หนี้ต้องก้อนเล็กที่สุดที่ยังทำให้คุณภาพชีวิตของคนในครอบครัวดีขึ้นได้ และความสุขของคนในครอบครัวต้องมาก่อนสิ่งของ เราให้ความสำคัญตรงนี้มาก

เราไม่มีวันรู้ว่า พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นนะคะ ทุกคนสำคัญรอบตัวเราพร้อมจากเราไปแทบทุกวินาที สิ่งสำคัญคือความสุขของคนที่เรารักค่ะ ไม่ใช่สิ่งของรอบตัวเลยค่ะ เรื่องพวกนี้ต้องบาลานซ์กันให้ดีๆ
ตอบกลับ
3 12
มิโนรุ
วันศุกร์ เวลา 12:10 น.
สมาชิกหมายเลข 2236089 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5298823 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, เทมปุระ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7387281 ถูกใจ, rabbiky ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3962789 ถูกใจ, ธาราสินธุ์ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1098521 ถูกใจ รวมถึงอีก 2 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 12
มาตอบในฐานะสามีและพ่อคนเหมือนกัน…

ถ้ารายได้รวมกันแสนกว่ายังใช้เดือนชนเดือน…. เครียดครับ

เครียดยังไงนะหรือ… เหมือนเดินอยู่บนเชือกครับ วันดีคืนดี ก็จะมีลมพัดมาแรงๆที (ค่าประกัน ค่าส่วนกลางหมู่บ้าน ค่าเทอมลูก ค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล ค่ามือถือใหม่ คอมพ์ใหม่ ฯลฯ …) แล้วที่ว่าทนเหนื่อยหน่อยนะ เกิน 10 ปีครับ… ถ้าเดินตกเชือกแล้ว ไม่ได้ตายนะครับ… แต่ หมายถึง โดนยึดบ้าน ยึดรถ และลูกทั้ง 3 คนต้องออกจากโรงเรียนครับ ตายทั้งเป็นเลยครับ

ตอบกลับ
8 20
wanchale
วันศุกร์ เวลา 12:10 น.
สมาชิกหมายเลข 3630420 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, SpicyTuna ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 2208824 ถูกใจ, Fiddle Fig ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2611873 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6539325 ถูกใจ, มิสเตอร์ D I Y ถูกใจ รวมถึงอีก 10 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 13
คุณติดกับ .. ปมชีวิตของตัวเอง เลยพยายามสร้างภาพว่าดูเหมือนมีพร้อมเหนือญาติๆแล้ว
ทั้งที่ความเป็นจริงขาดสภาพคล่องอย่างมาก ..ครอบครัว 5 คน ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน เงินเดือนแสนเศษ..

พยายามหารายได้ได้เพิ่ม ลดรายจ่ายอะไรที่เกินต้วออกไปบ้าง จะได้ลดความเสี่ยงในอนาคต ถ้าคุณ
หรือสามี ตกงาน หรือเจ็บป่วย คุณมีเงินสำรอง มีเงินเก็บรึยัง ถ้าวางแผนส่วนนี้ไม่ดี .. ทุกอย่างที่คุณ
คิดว่ามีจะหายไปแบบน่าใจหายเลยนะ..
ตอบกลับ
2 5
สมาชิกหมายเลข 4329843
วันศุกร์ เวลา 12:13 น.
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, เทมปุระ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1098521 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3104737 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 14
คุณยึดติดกับคำว่าความสำเร็จมากเกินไป อยากมีชีวิตมี่ดีแต่ทำแบบเกินตัว เรื่องบ้านยังพอเห็นด้วยที่เลือกบ้านเดี่ยวดีๆ เพราะราคาอาจจะเพิ่มขึ้นในอนาคต แต่เรื่องรถคือเกินตัวไปหน่อย

แล้วที่สำคัญคือครอบครัวคุณไม่วางแผนการเงินตั้งแต่แรก จริงอยู่ว่า 2 คนเงินเดือนรวมกันเกินแสนก็ถือว่าค่อนข้างเยอะ นับเป็นชนชั้นกลางแบบกลุ่มบนได้ แต่ถ้าต้องแบกรับภาระ 5 ชีวิตมันก็ไม่พอ ถ้าเงินเดือนรวมกันเกินสองแสนคงไม่เครียดเรื่องเงิน อนาคตตอนเกษียณคุณจะทำยังไง มีเงินสำรองหรือยัง หรือต้องรอให้ลูกๆ เลี้ยงเป็นภาระลูก

ตอนนี้คุณควรจะเลิกสนใจขี้ปากญาติๆ ไม่ต้องคิดไปอวดอะไรใครแต่หันกลับมามองความจริงบ้าง อะไรที่สร้างภาระเกินไปต้องตัดไม่ใช่เก็บไว้อวด

ส่วนสามีคุณ ถ้างานเครียดจริงๆ ลองแนะนำให้หางานใหม่ที่เงินเท่าเดิมหรือมากกว่า ถ้ามันไม่ไหวแล้วกับสภาพแวดล้อมปัจจุบันก็ไปเสี่ยงกับสภาพแวดล้อมใหม่ในที่ทำงานใหม่เอา
ตอบกลับ
0 5
สมาชิกหมายเลข 6091082
วันศุกร์ เวลา 12:14 น.
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, CPLK13 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1098521 ถูกใจ, ต่อเวลา ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 15
คนที่สุขสมหวังกับงาน แต่ ทุกข์หรือไม่สมหวังกับครอบครัว

มักเป็นคนที่ฉลาดทางปัญญา คิดเก่ง
แต่อาจไม่ฉลาดทางใจ

ใช้ สติปัญญา และ เหตุผล นำตลอด
ซึ่งก็เป็นหนทางที่ถูกต้อง
….แต่บางเรื่อง ก็ต้องใช้ทั้งใจและปัญญาควบคู่กันไปครับ

ชีวิตตรอบครัว จะเจอปัญหา จากความไม่ใส่ใจทางความรู้สึกได้บ่อยๆ ยิ่งใช้เหตุผลมากเท่าไรยิ่งจบไม่สวยในหลายๆโอกาส

แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 12:20 น.
ตอบกลับ
0 0
Dr.Chan
วันศุกร์ เวลา 12:17 น.
ความคิดเห็นที่ 16
ฟังเสียงคนในครอบครัวให้มากๆ เราต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน ต้องช่วยดูแลกันไปตลอดชีวิต
เสียงคนรอบข้างมันไม่ได้มาทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรือเลวร้ายลงได้หรอกครับ ยิ่งไปฟังมากๆ
มันยิ่งสร้างความยึดติดใน ego ของตัวเรา พอเค้านินทาก็ยิ่งอยากดีข่ม พอเค้าชมก็ยิ่งทำให้จมไม่เป็น
สุดท้ายแทนที่จะเลือกหนทาง รักษาความสุข ก็ กลายเป็นเลือก รักษา ego ของตัวเอง

ใช้ชีวิตอย่างพอประมาณ แยกให้ออก อะไรคือ ความอยาก อะไรคือ ความจำเป็น ชีวิตจะเบาสบายขึ้น

อย่าลืมว่าที่คนเราทำงานหาเงินเพื่อให้เรา หลุดพ้นจากความขาดแคลน
ไม่ใช่ทำงานจนทุกข์หนักกว่าเดิม กลายเป็นคนมีเงินแต่กลับยัง ขาดแคลนอยู่ตลอดเวลา
ตอบกลับ
2 6
P^eZ!M
วันศุกร์ เวลา 12:18 น.
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3182374 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6311992 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1098521 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 17
ซื้อบ้านซื้อรถก็ปรกติคนทั่วไป แต่ไม่รุ้จขกทซื้อราคาเกินไปจนทำให้สามีเครียด จนทะเลาะแบบนี้

แอบงงตรงตอนซื้อไม่ปรึกษากัน?

ทำไรไม่ได้ กัดฟันผ่อนให้หมด ถ้าขายบ้านไปที่ที่รับไหวดีกว่า แต่ก็คงไม่ง่าย

สามีจขกทพูดถุกเรื่องสนใจทำไมคนอื่น …..

ที่เคยเห็นคนรวยๆมากๆเขาใช้ชีวิตธรรมดามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 12:21 น.
ตอบกลับ
0 0
เพชรดี มณีแดง เขียวใสแสงมรกต
วันศุกร์ เวลา 12:18 น.
ความคิดเห็นที่ 18
เคยอธิบายไปหลายกระทู้แล้วว่า เรื่องการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดอันดับต้นๆของการใช้ชีวิตคู่
ถ้าไม่วางแผน ไม่จัดการ มีเท่าไหร่ก็ใช้หมด หมดก็เครียด จบด้วยทะเลาะกัน สุดๆก็เลิกกัน
ขอโทษด้วย ผมคงไม่มีคำแนะนำ ณ จุดนี้
ลองแบบนี้มั้ยครับ จับมือคุยกันใหม่ เอาอคติออกไป มานั่งเคลียร์บัญชีรับจ่ายใหม่อีกรอบ
สุดท้ายคือมีวินัย อดทน หาทางออกกันใหม่
ตอบกลับ
0 1
สมาชิกหมายเลข 1400377
วันศุกร์ เวลา 12:19 น.
สมาชิกหมายเลข 5320842 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 19
ทุกอย่าง​มีราคาของมัน..

อยากได้การไม่ทะเลาะ อยู่กับสามีอย่างมีความสุข … ต้องแลกให้เขาออกจากงาน รายได้ครอบครัว​อาจน้อยลง

อยากได้ทุกอย่างตามความอยากตน ก็ต้องทนทะเลาะกับสามี

จะได้ทุกอย่างคงไม่ได้ครับ​ ชีวิตก็แบบนี้ละครับ​
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 5706311
วันศุกร์ เวลา 12:28 น.
ความคิดเห็นที่ 20
หัวกระทู้ขี้นว่า ชีวิตประสบความสำเร็จหลายๆอย่าง แต่จริงๆมันไม่ใช่ตามหัวกระทู้เลยครับ นี่คือทางเดินไปสู่ความสำเร็จที่คุณวาดไว้ต่างหากครับ ลองค่อยๆประมาณค่าใช้จ่ายระยะยาวดูว่าเมื่อเทียบกับรายได้มันไหวไหม ถ้าไม่ไหวค่อยๆโตก็ไม่เสียหายนะครับ อะไรที่จ่ายเยอะได้แต่หน้าและความภูมิใจในมุมของตัวเอง อาจจะตัดออกไปก่อนก็ได้ครับ
ตอบกลับ
4 3
แม่นทุกครั้ง เมื่อหลังเกมส์
วันศุกร์ เวลา 12:36 น.
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6311992 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 21
มีลูกตั้งหลายคน ภาระก็ทั้งผ่อนบ้านผ่อนรถ เอาอะไรมาคิดว่าตัวเองชีวิตดี

เงินเดือนแสนเศษๆเนี่ยไม่ได้เยอะเลยนะ ตกคนละ 5-6 หมื่น ก็ระดับกลางๆอ้ะ

ถ้าสามีคุณเงินเดือน 300,000 ก็ว่าไปอย่าง

ถ้าหาเพิ่มกว่านี้ไม่ได้ ก็ต้องลดรายจ่าย สงสารเด็กๆนะ พ่อแม่ทะเลาะกันทุกวัน เด็กก็เครียด
ตอบกลับ
28 53
KHIMM
วันศุกร์ เวลา 12:39 น.
Ja lil a ถูกใจ, ทุเรียนรสเผือก ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1787498 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2236089 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3422241 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5298823 ถูกใจ, poltanapol ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3630420 ถูกใจ, นี่แม่เอง ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ รวมถึงอีก 43 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 21-1
ขอบคุณค่ะ คือเราไม่เข้าใจแค่ว่าตอนก่อนซื้อปรึกษากันแล้ว แล้วทำไมพอซื้อเป็นแบบนี้

ก่อนจะซื้อคุยกันตกลงกันแล้วค่ะ คือเราคิดว่าชีวิตเราโอเคขึ้นระดับนึงมากกว่าแต่ก่อนค่ะ

เราฝันว่าอยากมีบ้าน มีรถ พอวันนึงเรามีแบบที่ต้องการได้ เราเลยว่าเราประสบความสำเร็จค่ะ
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 7407169
วันศุกร์ เวลา 14:22 น.
ความคิดเห็นที่ 21-2
คำนวนอย่างถี่ถ้วนดีแล้วหรอเรท่องค่าใช้จ่าย?
ถ้าพรุ่งนี้สามีทิ้ง บ้านไม่มีคนผ่อน รถไม่มีคนส่ง ไม่เหลืออะไรซักอย่าง สรุป ล้มเหลวทันที.. อะไรคือประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ของตัวเองซักชิ้น
ตอบกลับ
1 5
สมาชิกหมายเลข 801640
วันศุกร์ เวลา 20:25 น.
สมาชิกหมายเลข 6711025 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3422241 ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, แมวเหม่ง ถูกใจ, KHIMM ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 21-3
บ้าน รถ ถ้ายังผ่อน ก็ยังเป็นของไฟแนนส์นะครับ

นอกเสียจากคุณมีเงินก้อนมาปิดอยู่แล้ว แต่เลือกจะผ่อน ด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม แบบนั้นถึงจะพอเรียกได้ว่าเป็นของเรา
ตอบกลับ
0 3
ข้าวแดงหลวง
วันศุกร์ เวลา 21:38 น.
moopeepink ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7387281 ถูกใจ, KHIMM ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 22
เรื่องคุณอาจจะซื้อบ้าน หรือ รถเกินกำลังอันนี้หลายๆ คนพูดไปแล้ว เห็นด้วยครับ

แต่สามีคุณ ตกลงแล้ว เค้าอยากมีเงินเก็บใช้ตอนเกษียร หรือ เค้าแค่อยากออกจากงานที่เครียดกันแน่ครับ
ถ้าออกจากงาน แล้วเหลือคุณคนเดียว มันจะมีเงินเก็บใช้ตอนบั้นปลายได้ยังไง แล้วไม่เครียดยิ่งกว่าเหรอ ผมสงสัยจุดยืนของสามีคุณเรื่องนี้มากกว่า

ถ้าเป็นผม จะแก้ที่ที่ล่ะจุดนะ อันดับแรก ให้ลืมเรื่องรถไปก่อน ใช้ของเดิมไป หรือซื้อมือสองที่ดีๆ
บ้านผ่อนไปเหมือนเดิมแหละ ถ้าไม่มีภาระ เรื่องรถ ก็น่าจะปลดไปได้เยอะ ส่วนเรื่องงานของสามี แนะนำให้หางานใหม่ดู อาจจะได้ทั้งเงินที่เพิ่ม และบรรยากาศที่เครียดน้อยลง ส่วนค่าเล่าเรียนเด็กน้อย ลองปรับโรงเรียนที่ค่าใช้ง่ายทางเหมาะกับครอบครัว หรือชิงทุน เพื่อลดตรงนี้ เพราะลูก 3 คน ก็ใช้จ่ายเยอะอยู่ครับ

พยายามแก้ความตึงเครียดที่เกิดจากภาระทางการเงินออกก่อน เรื่องอื่นๆ น่าจะเริ่มกีขึ้นเอง
ตอบกลับ
1 3
LinuxMan
วันศุกร์ เวลา 12:40 น.
basicguy ถูกใจ, luckycatty ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1098521 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 23
กับดักมนุษย์เงินเดือนทั้งนั้น ชีวิตฟุ้งเฟ้อ บอกให้ขายบ้าน ขายรถ คงจะไม่ยอมทำ ก็ช่วยอะไรไม่ได้ บัตรเครดิตอีก ไม่ส่งบ้านก็หาย ตามสเต็ป ~
ตอบกลับ
0 4
PexUnk
วันศุกร์ เวลา 12:40 น.
สมาชิกหมายเลข 1396525 ถูกใจ, เทมปุระ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6311992 ถูกใจ, จิน ณ จันทร์ ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 24
แค่อ่าน ยังรู้สึกได้ถึงความเครียดเลยค่ะ
ลูก ๆ ทั้ง 3 ค่าใช้จ่าย คงไม่ใช่น้อย ๆ เลย…
ตอบกลับ
0 0
KU1978
วันศุกร์ เวลา 12:46 น.
ความคิดเห็นที่ 25
ผมทายนะ จขกท สุดท้าย จะพบความวิบัติ จะตกอยู่ในวังวนแบบนี้ ต่อให้หารายได้มากกว่านี้ ก็จะใช้เงินเกินตัวเพื่อหน้าตาตัวเอง
แบบนี้ไม่เรียกว่าประสบความสำเร็จครับ คนที่ประสบความสำเร็จต้องมีความสุขด้วย แต่ชีวิต จขกท ล้มเหลว อย่างสิ้นเชิง
เพราะ จขกท ก็อยากจะอวดชีวิตดีๆ ให้ดีมากขึ้นๆ อยู่ร่ำไป ผมเองก็มีปม แต่ผมไม่เห็นต้องอวด ผมก็มีที่ดินมีรถยนต์ แต่ผมไม่เห็นจำเป็นต้องอวดไม่มีคนรู้ด้วยว่าผมมี แบบนี้ภูมิใจกว่า ผมเลือกใช้ชีวิตให้มีความสุขแบบจนๆ ดีกว่าใช้ชีวิตแบบ จขกท
ตอบกลับ
0 4
RoadRider
วันศุกร์ เวลา 12:52 น.
moopeepink ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5886135 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2881936 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1098521 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 26
คุณคะ เรากับแฟนเงินรวมกันก็แสนกว่าค่ะ แต่ค่าใช้จ่ายเราน้อยมาก บ้านหลังเล็กๆ ผ่อนเดือนไม่ถึงหมื่น (กู้แค่ครึ่งนึงของค่าบ้าน) รถผ่อนหมดแล้ว และ plan มีลูกแค่คนเดียว ถามว่าเราอยากได้บ้านหลังใหญ่กว่านี้มั้ย อยากมีลูกหลายคนมั้ย แน่นอนค่ะ เราอยาก แต่เราคงใช้ชีวิตไม่มีความสุขแน่นอน ทุกวันนี้อยากกินอะไรก็กิน อยากเที่ยวก็เที่ยว เงินเก็บเยอะ เงินลงทุนเยอะ ไม่เคยต้องเครียดค่าใช้จ่าย ถ้าอีกคนออกจากงานก็ยังอยู่ได้

คุณลองถามตัวเองนะคะ จะทนยื้อแบบนี้ได้นานแค่ไหน แบบนี้เรียกว่ามีความสุขจริงหรอ
ตอบกลับ
0 6
pookthedog
วันศุกร์ เวลา 12:54 น.
zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3182374 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6311992 ถูกใจ, @nastasi@ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 801640 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 27
ใจร้ายกับสามีเกินไป

เอาปมของตัวเองไปให้เขาแบกรับด้วย ซึ่งไม่ได้มีประโยชน์ต่อชีวิตเลยสักนิด

วางปมของตัวเองลง แล้วคิดทบทวนสิ่งที่สามีพูดเยอะ ๆ ก่อนที่จะเสียทั้งสามีและทรัพย์สินไปทั้งหมด ซึ่งนั่นจะแย่กว่าปมในอดีตเสียอีก
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 12:56 น.
ตอบกลับ
5 20
สมาชิกหมายเลข 5348069
วันศุกร์ เวลา 12:55 น.
สมาชิกหมายเลข 3422241 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1002771 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, เทมปุระ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7387281 ถูกใจ, Love Wichio ถูกใจ, @nastasi@ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6672376 ถูกใจ รวมถึงอีก 10 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 28
เราว่าคุณล้มเหลวนะคะ ชีวิตคู่คือควรจะอยู่กันแล้วสบายกายและใจ เป็นที่พักพิงให้กันและกัน ตัวคุณกลับผลักสามีให้อยู่ในจุดที่ทุกข์ใจ เพื่อหน้าตาปลอมๆ ของตัวเองซะงั้น
ตอบกลับ
1 5
ต๊องต๊อง กะ บ๊องบ๊อง
วันศุกร์ เวลา 12:55 น.
สมาชิกหมายเลข 3422241 ถูกใจ, น.ส.ขอจันทร์… ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2078405 ถูกใจ, ต่อเวลา ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 29
นกน้อยทำรังแต่พอตัว ดีกว่าครับ
ตอบกลับ
0 0
Alen
วันศุกร์ เวลา 12:56 น.
ความคิดเห็นที่ 30
อ่านแล้วยังไม่รู้สึกว่าประสบความสำเร็จตรงไหนนะคะ
เงินเดือนรวมกันแค่แสน แต่ภาระเยอะมาก อยากได้อยากมีจนไม่พอใช้ แบบนี้เรียกเกินตัว
ยังเรียกว่ามีบ้านมีรถไม่ได้หรอกถ้ายังผ่อนไม่หมด
สิ่งที่คุณอวดชาวบ้านแค่ของในอนาคต

ถ้าวันนึงสามีไม่เอาแล้ว ทิ้งทุกอย่างหนีไป คุณจะทำไง จะผ่อนคนเดียวไหวเหรอ
เราว่าสัญญาณที่สามีคุณส่งมาเป็นเหมือนคำเตือนที่น่าอันตรายละ
ตอบกลับ
2 19
เจ้าเหมียวพุงตุ้ย
วันศุกร์ เวลา 13:05 น.
สมาชิกหมายเลข 3422241 ถูกใจ, นี่แม่เอง ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, เทมปุระ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6010687 ถูกใจ, @nastasi@ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 801640 ถูกใจ, rabbiky ถูกใจ รวมถึงอีก 9 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 31
เราว่าคุณขายบ้านและขายรถเถอะ
พยายามลดภาระให้มากที่สุด ย้ายไปอยู่บ้านเล็กหน่อย
มีลูก 3 คน ในปัจจุบัน ถือว่า ไม่น้อยนะคะ
ยังมีค่าใช้จ่ายอีกมากมาย ที่รออยู่
คุณต้องเปลี่ยนแปลงชีวิต จะปล่อยให้สามีเครียดทุกวันไม่ดีแน่
อย่าไปแคร์คนอื่น ค่ะ เอาครอบครัวให้รอดก่อนค่ะ
ตอบกลับ
0 0
คิดไม่ออกชื่อไรดี
วันศุกร์ เวลา 13:13 น.
ความคิดเห็นที่ 32
คุณไม่ได้ประสบความสำเร็จ คุณไม่ได้มีปัญหาชีวิตคู่
แต่คุณมีปัญหาทางด้านการเงิน มันเลยพาลไปในจุดอื่นในชีวิต
เงินเดือนเยอะ แต่รายจ่ายก็เยอะ ไม่ได้เท่ากับมีรายได้เยอะนะคะ
สุดท้ายก็ต้องดูว่า จ่ายค่าต่างๆแล้วเหลือเงินเท่าไรต่างหาก
คุณต้องการหน้า กลัวเสียหน้า คิดว่าตัวเองถึงจุดสูงสุด
ฉันจะลงไม่ได้ ถ้าลงมีคนคอยจะซ้ำคุณอยู่ คุณแบกทุกอย่างเอาไว้
เพื่อภาพลักษณ์ภายนอก แต่ข้างในวุ่นวายและมีปัญหา
ไปตั้งสติและคิดให้ดีว่าจริงๆแล้วชีวิตประสบความสำเร็จจริงเหรอ?
ตอบกลับ
6 18
RABBIT_BB
วันศุกร์ เวลา 13:30 น.
นี่แม่เอง ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3182374 ถูกใจ, เทมปุระ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7387281 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5892048 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6311992 ถูกใจ, nanatsu ถูกใจ รวมถึงอีก 8 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 32-1
คิดเหมือนคหนี้เลยค่ะ จขกทเข้าใจประเด็นผิดไป ปัญหาคือเรื่องการเงินที่ส่งผลต่อชีวิตคู่มากกว่า มีบ้านมีรถแต่ยังผ่อนแบบตึงๆเราว่าไม่น่าเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในชีวิตนะคะ
ตอบกลับ
0 0
Hichi-Ringo
วันศุกร์ เวลา 14:04 น.
ความคิดเห็นที่ 32-2
เห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ

จขกท.ไม่ได้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้มีปัญหาชีวิตคู่

แต่มีปัญหาเรื่องวางแผนการเงินและวางแผนครอบครัว

จนปัญหาที่เกิดมันกระทบไปยังสถาบันอื่น

ส่วนตัวแอบเห็นเห็นด้วยกับ สามีคุณที่ให้รู้จักพอเพียง

อยู่แบบพอประมาณกับขนาดตัว ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ด่วนๆ

ถ้ายังขาดการวางแผนครอบครัว เวลาลูก 3 คนเรียนในระดับสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายจะเยอะกว่านี้แน่นอนนะครับ
ตอบกลับ
0 0
dexsil
วันศุกร์ เวลา 15:30 น.
ความคิดเห็นที่ 33
กรรมแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
ตอบกลับ
0 1
prite
วันศุกร์ เวลา 13:32 น.
สมาชิกหมายเลข 6010687 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 34
ผู้หญิงหลายคน เซนสิทีฟ กับความรู้สึกของคนนอก
แต่ไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยเห็นใจ คนในครอบครัว คนใกล้ตัว

คนแบบนี้ จะรู้สึกถึงคุณค่า ของบางคนจริงๆ
ก็ต่อเมื่อสูญเสียเขาไปแล้ว

ทัศนคติในการใช้ชีวิตของคุณ
มันเปลือกมากๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ 20 ชั่วโมงที่แล้ว
ตอบกลับ
1 5
สมาชิกหมายเลข 6011427
วันศุกร์ เวลา 13:32 น.
moopeepink ถูกใจ, Restful ถูกใจ, ต่อเวลา ถูกใจ, ฟ้าหมาดฝน ถูกใจ, RABBIT_BB ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 35
อันนี้ไม่เรียกประสบความสำเร็จเลยค่ะ สภาพการเงินคุณคือใครตกงานคนนึง ทุกอย่างในชีวิตก็ล้มครืนเป็นโดมิโน่ภายในเดือนเดียวเลย

ถึงฉากหน้าจะดูดี แต่ฉากหลังก็ไม่ต่างจากคนหาเช้ากินค่ำที่อยู่ได้ไปวันๆ แบบคุณเราเรียกจนนะ
ตอบกลับ
5 9
สมาชิกหมายเลข 3142288
วันศุกร์ เวลา 13:32 น.
moopeepink ถูกใจ, SpicyTuna ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6010687 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6900637 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2363856 ถูกใจ, Restful ถูกใจ, dexsil ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7246658 ถูกใจ, KHIMM ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 36
คุณควรแคร์สามีคุณมากกว่าญาติๆนะ รายได้แสนกว่าๆ แต่ก่อรายจ่ายมหาศาลมากแบบที่ขนาดเราหาคนเดียวรายได้แบบนี้ ยังไม่กล้าใช้จ่ายแบบคุณเลยค่ะ

มีลูกสาม แต่รายได้เดือนชนเดือนนี่หายนะค่ะ คุณควรคำนวณค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูกยาวๆด้วย

คือลดสเปคการใช้ชีวิตตัวเองลงค่ะ รักสามีให้มากๆ
เค้าก็เป็นคน เป็นพ่อของลูกคุณนะ ไม่ใช่เครื่องจักรผลิตเงิน คนเรามันมีวันเหนื่อยวันล้า นี่เหนื่อยจากงาน ยังมารบกับที่บ้านอีก บางคนเค้าก็หนีปัญหาไปที่ชอบๆ ไปหาที่ที่เค้าอยู่แล้วสบายใจนะคะ ไม่ใช้มารอทะเลาะกับภรรยา
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 13:43 น.
ตอบกลับ
0 4
แมวน้ำทะเลเดือด
วันศุกร์ เวลา 13:37 น.
รุ้งกินน้ำตัวอ้วน ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5892048 ถูกใจ, ต่อเวลา ซึ้ง
ความคิดเห็นที่ 37
เงินเดือนสองคนรวมกันแสนขึ้น … ก็ตกคนละ 5 – 7 หมื่นบาท .. สำหรับผม มันไม่ได้เยอะเลยนะ

ผมอยู่คนเดียว ไม่มีครอบครัว เงินเดือนแสนอัพ เวลาจะใช้เงินที ผมยังคิดแล้วคิดอีก ทุกวันนี้ มีแค่ผ่อนบ้าน 2 หลัง ส่วนรถเคลียร์จบหมดแล้ว ของคุณมีบ้าน มีรถ มีลูก แล้วรายได้มาจากคน 2 คนรวมกัน หุหุ

ผมไม่เคยมีหน้าตา ไม่เคยสนใจใคร ด้วย

ตำแหน่งผม คือ ผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ที่ทุกคนรู้จัก แต่ทุกวันนี้ ผมบิดมอไซค์แม่บ้านเก่าๆไปทำงาน ถ้าประชุมที่โรงแรมตรงข้ามบริษัท ประชุมกับเจ้าของบริษัท ก็ยังบิดมอไซค์นั่นแหละ เป็นภาพที่ทุกคนเห็นจนชินตา

เจอญาติพี่น้องเหรอ ? .. ก็ขับรถ มีรถ 3 คัน รถญี่ปุ่นธรรมดาไม่ได้หรูหราอะไร ไม่มีใครมานั่งมองรถ ไม่มีใครมาถามเรื่องเงินเดือน

น้องสาวผม เงินเดือนมากกว่าผม 5 เท่า ยังขับรถรุ่นเดียวกับผม แต่โทรมกว่ารถผมอีก แต่แน่นอนบ้านที่เค้าอยู่ คอนโดที่เค้าอยู่ การใช้สอยต่างๆก็ตามฐานะเค้าแหละ

แต่ทุกคน ไม่เคยเอามาอวดว่า ชั้นรวยกว่า ชั้นเก่งกว่า ชั้นประสบความสำเร็จกว่า

ผมไม่เคยเทียบกับน้อง เพราะไม่มีทาง แต่ผมก็บริหารชีวิตผม ในจุดที่เป็นไปได้และเหมาะสม ผมวางแผนสำหรับตอนเกษียณอายุ ตั้งแต่อายุ 40 ปี ผมซื้อบ้าน ผมวางแผนรายได้หลังเกษียณ ผมคาดหวังว่า หลังเกษียณแล้ว ผมจะมีเวลา มีเงินใช้ โดยไม่ต้องทำงาน อยู่กับ รถที่ผมรัก อยู่กับบ้านที่ผมชอบ แค่นี้มีความสุขละ ไม่ต้องไปอวดหรือแข่งกับใครเขา
ตอบกลับ
7 14
เด็กบูรพา
วันศุกร์ เวลา 13:41 น.
สมาชิกหมายเลข 999870 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7268847 ถูกใจ, dxxa ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3422241 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7331349 ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 3630420 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, CPLK13 ถูกใจ รวมถึงอีก 4 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 37-1
ถามกงๆ

ทำไมไม่คิดมีแฟน หรือมีครอบครัวอะ

เพี้ยนหืมเพี้ยนหืม
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 7272443
18 ชั่วโมงที่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 37-2
แฟนมีแล้วครับ แต่อยู่กันคนละจังหวัดครับ
ตอบกลับ
0 0
เด็กบูรพา
16 ชั่วโมงที่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 38
สิ่งที่คุณเห็นว่าเป็นความสำเร็จเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะคุณมีแต่หนี้สิน ค่าใช้จ่ายลูก 3 คน ยังไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรเป็นของคุณเลย วันหนึ่งที่คุณส่งบ้าน ส่งรถไม่ไหว เจ้าของเขาก็มาเอาคืน คุณขาดความรู้ทางเงินอย่างรุนแรง ทำอะไรเกินตัวไปมาก แนะนำให้หาหนังสือ Money Mindset ของโค้ชหนุ่มอ่านดูนะคะ

ความสำเร็จที่คุณภูมิใจ มันเปราะบางมากพร้อมจะพังทะลายลงมา แฟนคุณส่งสัญญาณบอกว่าไม่ไหวแล้วแต่คุณกลับไม่สนใจ ไม่แคร์ แต่ไปแคร์คนนอกบ้าน

ถ้าครอบครัวพัง หรือแฟนคุณเครียดจนป่วยกาย ป่วยใจ คุณคิดว่าคุณจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และหาเงินให้พอค่าใช้จ่ายลูกทั้ง 3 คนได้ไหม

อย่าใช้เงินเกินตัว รถ บ้าน โรงเรียนลูก เป็นค่าใช้จ่ายระยะยาวทั้งนั้น ไม่ใช่แค่ปี สองปี

อยู่ที่คุณแล้วค่ะว่าจะเลือกจัดการทุกอย่างก่อนที่มันจะลุกลามใหญ่โตจนปิดไม่มิด ตั้งสติใหม่ คิดดีๆ แก้ไขตอนนี้ยังทัน
ตอบกลับ
0 3
Pungkyjung
วันศุกร์ เวลา 13:44 น.
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6010687 ถูกใจ, ต่อเวลา ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 39
เราก็เหมือนคุณค่ะ เวลารวมญาติเราและแม่คือครอบครัวที่จนที่สุด
ต้องได้รับการช่วยเหลือจากญาติๆบ่อยๆ และโดนดูถูกบ่อยๆจากญาติๆ แต่เราไม่เคยมีความคิดอยากเอาชนะ หรือไปอวดอะไรเค้าเลย เราแค่ประคับประคองชีวิตเราไม่ให้ล้มเหลวก็พอ เพราะถ้าล้มจะโดนเหยียบแน่นอน
จนเราเรียนจบมีงานทำ แต่งงาน มีครอบครัว และครอบครัวฝั่งแฟนฐานะค่อนข้างดีมาก
เรามีบ้านราคาแพง และรถยุโรปขับ และมีของแบรนด์เนมใช้
เราไม่เคยกลับบ้านไปหาญาติๆ อีกเลยค่ะตั้งแต่เรียนจบ ไม่จัดงานแต่งเพื่ออวดเค้าด้วย
เราอยู่กินกับสามีไปเลย และเราก็ไม่สนใจญาติด้วยว่าเค้าจะสนใจชีวิตเราแค่ไหน เราแค่ใช้ชีวิตเราให้สบายและมีความสุขเท่านั้นพอ

เราแนะนำว่าคุณลองปล่อยวางเรื่องคนรอบข้างดูไหมคะ ไม่ต้องไปสนใจว่าเค้าจะคิดยังไง และมองความเป็นจริงตรงหน้า
มองที่สามีและลูก และประคับประคองให้ครอบครัวมีความสุขในแบบที่มันควรจะเป็นดีกว่าค่ะ
คนนอกทำอะไรเราไม่ได้ แต่ถ้าเราสูญเสียครอบครัวของเราไป ความสุขคุณหายไปแน่ๆค่ะ
เป็นกำลังใจให้หาทางออกได้นะคะ
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 6923683
วันศุกร์ เวลา 13:48 น.
ความคิดเห็นที่ 40
เราใช้ชีวิตเพื่อให้มีความสุขในอนาคต โดยลืมไปว่าตอนนี้ก็คือชีวิตเหมือนกัน
ตอบกลับ
2 5
สมาชิกหมายเลข 5210178
วันศุกร์ เวลา 13:53 น.
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, rabbiky ถูกใจ, RABBIT_BB ถูกใจ, KHIMM ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 41
โดยรวมๆ รายจ่ายมากกว่ารายได้
เป็นปัญหาทั่วไปในสังคมประเทศที่รายได้ไม่สัมพันธ์กับรายจ่ายแบบไทยเนี่ยแหละครับ (ประเทศที่ดีรัฐจะจัดสรรค์การศึกษาที่ดี ใกล้บ้าน เท่าเทียม ราคาถูกให้ บางประเทศดูแลเรื่องบ้านด้วยซ้ำ ประชาชนมีหน้าทีทำงานจ่ายภาษี(ซึ่งบางประเทศที่ว่า ภาษีถูกว่าไทยอีก)

ปัญหาทั้งหมดจะแก้ได้เมื่อ เพิ่มรายได้ หรือลดรายจ่าย
การเพิ่มรายได้ไม่ง่ายเลยครับ โดยเฉพาะในสถานการณ์ของสามีของคุณ ที่แทบจะทำงานเดิมไม่ไหวแล้วจากความเครียด
เพราะฉะนั้น ลดรายจ่ายแทบจะเป็นวิธีเดียวที่เหลืออยู่ครับ เพื่อประคับประคองชีวิตครอบครัวให้อยู่ครบทุกคนครับ
ตอบกลับ
0 0
Kingsguard
วันศุกร์ เวลา 13:56 น.
ความคิดเห็นที่ 42
คุณแน่ใจไหมว่าสิ่งที่กำลังคิด คนอื่นก็คิดเหมือนกัน

ในขณะที่คุณภาคภูมิใจกับบ้าน รถ โรงเรียนลูก
ญาติที่คุณคิดว่าเขาด้อยกว่า เขาต้องชื่นชมคุณ อาจเม้าท์ว่าคุณปลอมเปลือกอยู่ลับหลังก็ได้

ที่เราพูดแบบนี้เพราะพ่อแม่เคยพูดแบบนี้ลับหลังญาติคนที่ฉากหน้าดี
สิ่งที่พ่อแม่เราให้คุณค่าคืองานราชการ ถ้าไม่ใช่แล้วการมีรายได้จากคน 2คนรวมกันแสนกว่า สำหรับพ่อแม่เราคือน้อยมาก ห่างไกลจากคำว่าประสบความสำเร็จสุดๆ

เราจะมีชีวิตในอนาคตที่ดีได้อย่างไร ถ้าปัจจุบันคนเคียงข้างเขากำลังไม่ไหว
ในคำที่คุณเรียกว่าอดทน สำหรับบางคนมันคือเกินตัว
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 13:58 น.
ตอบกลับ
0 2
สมาชิกหมายเลข 1128066
วันศุกร์ เวลา 13:57 น.
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6010687 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 42-1
จริงมากค่ะ ไม่มีใครชื่นชมจริงๆหรอก ลับหลังเข้าด่าทั้งนั้นแหละ ว่าเว่อร์ เราเห็นมาเยอะ เป็นแบบนี้หมด ต่อหน้าชื่นชม ลับหลังบอกว่า มันทำตัวเว่อร จริงๆมีแต่ของผ่อน แล้วก็หัวเราะกันสนุกปาก
ยิ่งเขารู้จักเราดี เขายิ่งรู้นิสัยเรา เขาดูออก ว่าจริงๆปลอม
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 6010687
เมื่อวานนี้ เวลา 00:27 น.
ความคิดเห็นที่ 43
-คุณกำลังใช้เงินในอนาคตซื้อความสำเร็จในชีวิต
-คุณใช้เงินในอนาคตซื้อความมีหน้ามีตาทางสังคม
-คุณกำลังติดกับความคาดหวังของคนอื่น
-คุณแคร์สังคมมากกว่าคนในครอบครัว โดยเฉพาะสามีของคุณ
-คุณกำลังค่อยๆ ทำลายชีวิตครอบครัวของตัวเอง
ตอบกลับ
1 2
ผัดกะเพราหมูใส่ถั่วฝักยาว
วันศุกร์ เวลา 14:06 น.
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5778456 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 44
เห็นด้วยกับสามีคุณค่ะ ดูมีวุฒิภาวะ มองโลกตามความเป็นจริง คุณได้สามีแบบนี้ดีแล้วค่ะ คนที่มีความคิด โลกไม่สวย เขาจะไม่พาคุณหลงทาง เหลือแต่ จขกท.จะลดราวาศอกเรื่องหน้าตา แล้วมานั่งพิจารณาสิ่งที่เค้าพูดมั้ย เข้าใจว่า จขกท. มีปม แต่เราไม่ควรใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือในการลบปมของตัวเองค่ะ มันไม่ยุติธรรมสำหรับเขา อ่านจนถึงบรรทัดสุดท้าย จขกท.ก็ยังไม่คลายเรื่องสายตาคนอื่น

ตัวเราเองเจอมาหนักกว่า จขกท. โดนดูถูกนั่นแหละ ตอนตกงาน เป็น homeless ไปพักนึงก็ถูกตามถ่ายรูป เอาไปนินทา หัวเราะกัน บางวันถึงขั้นจ้างคนให้พาเราไปเดิน วงเวียน 22 เพื่อถ่ายรูปว่าเรารับแขก เพื่อเอาไปเป็นหลักฐานว่าเราตกต่ำแค่ไหน ( ความจริงคือเราเดินหาร้านเน็ตดูบอลฆ่าเวลารอขึ้นรถไฟ คนนั้นเลยอาสาพาเราไปเดินหาร้าน) โดนจนกระทั่งปมมันคลายไปเอง ตอนนี้กลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามจังหวะของตัวเอง ไม่พยายามจะพิสูจน์ตัวเองกับใครอีกเลย ไม่พยายามเป็นในสิ่งที่คนอื่นเป็น ไม่ดิ้นรนเรื่องการมีครอบครัว เมื่อใจเราไม่เรียกร้อง
เอาใจช่วยให้ จขกท. คลายปมได้ไวๆค่ะ เพราะรากของปัญหามันอยู่ตรงนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ 17 ชั่วโมงที่แล้ว
ตอบกลับ
0 2
สมาชิกหมายเลข 7246658
วันศุกร์ เวลา 14:12 น.
พ่อขวัญเอย ทึ่ง, zealottan ทึ่ง
ความคิดเห็นที่ 45
จริงๆ ก่อนซื้อบ้าน ซื้อรถ ก็ต้องลองคำนวณเงินก่อนนะว่าถ้าต้องส่งเท่านี้ ชีวิตจะดึงแค่ไหน
ตอบกลับ
0 0
rakjingjung
วันศุกร์ เวลา 14:14 น.
ความคิดเห็นที่ 45-1
จริงๆก็คำนวนค่ะ ยังพอถูๆไถๆได้ เพราะคิดว่าอีก 4 ปี ผ่อนรถหมดก็คงสบายขึ้น ตอนคุยก็ปรึกษากันแล้วค่ะ

แต่พอเจอรายจ่ายจริงๆ ก็ไม่รู้ทำไมเป็นแบบนี้ค่ะ
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 7407169
วันศุกร์ เวลา 14:21 น.
ความคิดเห็นที่ 45-2
ให้แฟนอดทนหน่อย 4 ปี ก้อสบายแล้ว
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 7222537
วันศุกร์ เวลา 22:50 น.
ความคิดเห็นที่ 46
ถ้าลดได้ก็ลดครับ อย่าทำอะไรเกินตัว อย่าให้มันเวอร์วังอลังการ ไม่ต้องไปอวดใครเขาว่าเรามี เดี๋ยวชีวิตเราก็มีความสุขครับ บางครั้งความสุข ก็หาได้จากมุมเล็กๆที่ไม่ได้ใช้เงินเลยก็มีครับ
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 4527357
วันศุกร์ เวลา 14:37 น.
ความคิดเห็นที่ 47
เห็นแก่ตัวมากค่ะ สนใจแต่ความสุขของตัวเอง แต่ไม่สนใจความสุขของสามีเลย
เป็นกรรมของสามีคุณจริงๆที่ได้ภรรยาแบบคุณ
ตอบกลับ
0 0
Noknoi
วันศุกร์ เวลา 14:41 น.
ความคิดเห็นที่ 48
เราอ่านทั้งเนื้อหาหลัก ละความเห็นย่อยนะคะ

จขกท.บอกว่า ก่อนซื้อบ้าน คำนวณแล้ว ก็ถูๆไถๆ แต่ตกลงกันว่าจะอดทน
แต่ไม่รู้ว่า ทำไมพอเจอสถานการณ์จริง สามีถึงเป็นแบบนี้
เราอ่านตรงนี้ เรารู้เลยว่า ความอยากได้มันบังตาคุณ
เพราะคำว่าถูๆไถๆ นี่คือ คำพูดอ้อมๆแอ้มของคำว่า = ไม่ไหว

ก็เพราะยังไม่เจอของจริง คุณถึงคิดว่าจะทนได้ไง
มีกระทู้เยอะแยะ ที่มาถามก่อนซื้อ ด้วยสถานะแบบคุณนี่แหละ
ประมาณว่า ยอดผ่อนรถ/บ้าน 30-50% ของรายได้ ไหวไหม
ก็โดนดึงสติกันไปหลายคน ไม่รู้ซื้อจริงหรือไม่จริงนะ

สามีคุณ เค้ารับรู้ถึงความลำบากแล้ว แต่ตัวคุณยังไม่ยอมรับความจริงเลย
มีอะไรถอยได้ ประหยัดได้ ก็ถอยบ้างค่ะ รายได้แสนนึงเลี้ยงลูก 3 คน มันไม่เยอะเลยนะคะ
เรื่องบ้านซื้อแล้ว คงทำอะไรไม่ได้ถ้าไม่ถึงกับล้มจริงๆ
(แต่สามีอยากขายแล้ว อันนี้ไม่รู้เหมือนกันสถานการณ์ถึงขั้นไหน)
อย่างอื่นคงต้องช่วยกันประหยัดค่ะ ไม่รู้เหมือนกันค่าบัตร คือค่าอะไร
ส่วนตัวเราไม่เคยเรียกยอดบัตรเครดิตว่าค่าใช้จ่าย
จะซื้ออะไรก็อยู่ในงบนั้นค่ะไม่ใช่เอาค่าบัตรเป็นอีกหมวดหมู่หนึ่ง
มันเหมือนซื้อโดยไม่ตั้งใจมากกว่า

คิดย้อนไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน เราก็อายุเท่าคุณตอนนี้แหละ
ครอบครัวเราก็รายได้พอๆกับคุณ มีลูก 2 คน ก็ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เหมือนกัน
ตอนนั้นลูกยังไม่เข้า รร. แค่นึกถึงค่าเทอม รร.เอกชนแบบดีๆ
เราก็รู้สึกแล้วค่ะว่าจะไม่พอ เริ่มหงุดหงิดตึงเครียดเหมือนกัน
ก็หารายได้เสริมค่ะ ทั้งที่ไม่เคยคิดจะทำเลยเพราะเวลาส่วนตัวลดลง แต่ไม่งั้นก็เครียดค่ะ
เล่าให้ฟังเฉยๆว่ามันผ่านไปยังไง
ตอนนี้เปลี่ยนงานแล้วรายได้มากขึ้น บ้านก็ผ่อนหมดแล้วค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 15:12 น.
ตอบกลับ
1 5
ฟ้าหมาดฝน
วันศุกร์ เวลา 14:51 น.
น.ส.ขอจันทร์… ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, zealottan ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, ต่อเวลา ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 49
เงินเดือนเยอะแต่ก็มีค่าใช้จ่ายเยอะแถมได้ความเครียดมาอีก บ้านก็ยังต้องผ่อน และยังบอกว่าเงินแทบหมุนไม่ทัน
แบบนี้จะเรียกประสบความสำเร็จได้ยังไง หน้าที่การงานอาจดีแต่ไม่การันตีว่าจะไม่โดนไล่ออก ผมมองเห็ภาพคุณเหมือน
ตัวนางร้ายในละครที่เปลือกนอกดูดีแต่ข้างในกรวง เวลาพบญาติข้าต้องห้ามน้อยหน้าใคร แบบนี้เรียกว่าจมไม่ลงเปล่า
ตอบกลับ
0 0
peppep
วันศุกร์ เวลา 14:58 น.
ความคิดเห็นที่ 50
ความคิดเจ้าของกระทู้แปลกดี หน้าใหญ่ ขี้อวด ไม่รู้จักประมาณตน

ลูกก็เยอะหนี้ก็เยอะ เงินเดือนนิดเดียว ถ้าไม่ขายบ้านก็ควรหยุดผ่อนรถค่ะ

ถ้าอยากไปไหนทั้งครอบครัวควรเช่ารถเป็นคราว ๆ ไป

อนึ่ง รายได้ต่อเดือนที่เรียกว่าเยอะสำหรับดิฉันคือคนละแสนขึ้นหรืออีกนิดเดียวก็จะถึงแสน

แต่ไม่ใช่ต้องเอามา”รวมกัน”ถึงจะได้หลักแสน

…ย้ำอีกครั้งถึงเรื่องการเรียนรู้ที่จะประมาณตน มันสำคัญจริง ๆ ค่ะ
ตอบกลับ
1 0
สมาชิกหมายเลข 6974184
วันศุกร์ เวลา 15:09 น.
ความคิดเห็นที่ 51
เพื่อหน้าตาทางสังคม ต้องยอมมีชีวิตที่กดดันแบบนี้ตลอดเวลาเลยหรือเนี่ย

เหนื่อยแทน

หวังว่าสามีคุณจะสู้ ไปกับคุณได้ตลอดไม่หมดใจ
ตอบกลับ
0 1
jasonkason
วันศุกร์ เวลา 15:13 น.
ต่อเวลา ซึ้ง
ความคิดเห็นที่ 52
อยากให้อ่านบทความนี้

https://www.facebook.com/magnoliadiary/photos/a.109557261373568/210897311239562/
ตอบกลับ
0 0
Alex on the rock
วันศุกร์ เวลา 15:18 น.
ความคิดเห็นที่ 53
แคร์สามีให้มากๆ แคร์ญาติให้น้อยๆ
ลดทุกอย่างลงมาในจุดที่จ่ายไหว ถ้าคุณไม่ดึงสติตอนนี้
ระวังจะเสียทั้งบ้าน รถและสามีนะคะ
ตอบกลับ
0 11
little forest
วันศุกร์ เวลา 15:33 น.
zealottan ถูกใจ, HogHeaven ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5315898 ถูกใจ, Skybaby ถูกใจ, Would you be able to ? ถูกใจ, ต่อเวลา ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2259255 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6103827 ถูกใจ, RABBIT_BB ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6360374 ถูกใจ รวมถึงอีก 1 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 53-1
เห็นด้วยเลยค่ะ เพราะญาติๆก็ไม่ได้ช่วยเราได้ขนาดสามี
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 6360374
วันศุกร์ เวลา 15:42 น.
ความคิดเห็นที่ 53-2
จริงครับ แคร์คนในบ้าน ดีกว่าแคร์คนนอกบ้าน
คิดถึงมุมของลูกๆบ้างนะครับ คงไม่อยากให้พ่อแม่ทะเลาะกัน
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 6103827
วันศุกร์ เวลา 16:18 น.
ความคิดเห็นที่ 54
เงินเดือนเยอะ แต่รายจ่ายก็เยอะตามไปด้วย แถมยังมีลูกตั้ง3 คน
ไม่ว่าจะทำอะไรต้องรู้จักพอประมาณดีกว่า
เห็นด้วยกับความรู้สึกของสามีคุณที่อยากมีเงินเก็บ เงินสำรอง
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 6824042
วันศุกร์ เวลา 15:46 น.
ความคิดเห็นที่ 55
ที่บอกว่าคุยกันก่อนซื้อบ้าน ตอนนั้นมีลูกสามคนแล้วหรือยังครับ

เลี้ยงเด็กมีรายจ่ายเยอะ ยิ่งตอนเข้าโรงเรียน บอกตรงๆเงินเดือนสองคนเท่านี้รวมกันผ่อนบ้าน รถ เลี้ยงลูกสามคน ไม่พอไม่แปลกครับ ยิ่งบอกส่งเข้าโรงเรียนดีๆ ค่าเทอมก็คงไม่น้อย แล้วถ้าเพื่อนๆมีอะไร ลูกอยากได้ตามเพื่อนคุณจะไหวไหม คุณกำลังใช้จ่ายเกินตัวนะครับ รู้ตัวบ้างหรือเปล่า

รถครอบครัวคันนึงน่าจะล้านกลางๆ ที่จริงไม่น่าซื้อ ซื้อเก๋งธรรมดาสัก7-8แสน ใช้ไป5-6ปี รายได้มากกว่านี้ค่อยขยับขยายก็ได้ ไม่ใช่ว่ารถคันนึงจะต้องใช้ไปจนตาย รถยิ่งแพงค่าดูแลรักษาก็แพงตาม

ผมก็ไม่รู้ว่าเงินเดือนสองคนแสนกว่านี่คือคุณ5หมื่น สามีคุณ7หมื่น ประมาณนี้มั้ย หรือคุณ3หมื่น สามี7หมื่น แต่ผมว่าคุณต้องตื่นจากความคิดที่คุณว่าประสบความสำเร็จได้แล้ว ลองทำบัญชีรายรับรายจ่ายดู ว่าคุณมีรายจ่ายต่อเดือนกันแน่ๆเท่าไหร่ รีบเก็บออมลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นเสีย บ้านถ้ารีไฟแนนซ์ได้ก็ลองดู คิดไว้ว่าหากวันนึงคุณหรือสามีคุณตกงานจะเป็นอย่างไร จะเอาที่ไหนจ่ายค่าเทอมลูก เอาที่ไหนผ่อนบ้าน สงสารลูกๆเถอะครับอย่าให้เป็นเหมือนคุณตอนเล็กๆ เพราะถ้าคุณกับสามีไม่มีแรงส่งเสียแล้วไม่รู้จะมีใครช่วยเหลืออีกหรือเปล่า
ตอบกลับ
0 3
คนรู้มาก
วันศุกร์ เวลา 16:02 น.
ต่อเวลา ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1098521 ถูกใจ, ฟ้าหมาดฝน ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 56
จะสำเร็จอะไรก็ไม่รู้แหละ แต่ครอบครัวคุณล้มเหลวด้านบริหารการเงิน ถ้ามีคำว่าหมุนไม่ค่อยจะทันนี่มันชัดเจนแล้ว ซึ่งการล้มเหลวด้านการเงิน คือหายนะของครอบครัวเลยแหละ ต้องรีบหาทางออก ปรึกษาสามี อะไรตัดค่าใช้จ่ายได้ให้รีบตัด ถ้ายังปล่อยไปนานกว่านี้จะบานปลาย อย่าไปสนหน้าตา ถ้ายังเดินในทางนี้ต่อไป นอกจากหน้าจะแหกแล้วกระดูกอาจจะหักทั้งตัว จริงๆ ถือว่าคุณรายได้พอโอเค กลางๆ ถ้าวางแผนดีๆก็ไม่เดือดร้อนแล้ว อย่าไปตั้งเป้าหมายตามสายตาคนอื่น ต้องเผื่อคุณหรือสามีตกงานไว้ด้วย พยายามมีแบบแผนการเงิน อย่างน้อยๆกระแสเงินสด ต้องมีสำรอง 6 เดือนตามสูตร บ้านและทรัพย์สินอื่นๆมันไม่มีสภาพคล่อง มันแปลงเป้็นเงินยาก อีกทั้งมันยังคงเป็นของธนาคาร
ตอบกลับ
0 2
สมาชิกหมายเลข 5315898
วันศุกร์ เวลา 16:06 น.
ต่อเวลา ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1098521 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 57
อยากจะเตือนจขกท.ว่าตอนนี้สามียังอยู่กับคุณ เค้าเปิดอกคุยกับคุณตรงๆแล้วว่าเค้าไม่ไหว เราว่าคุณควรหันกลับมาดูแลใจสามีดีกว่าค่ะ เรื่องญาติเรื่องความสำเร็จนั่นมันสำคัญว่าคนข้างๆเราหรอ

บางทีก็อย่าไปมองอนาคตที่มันไกลมากเกินไปเลยค่ะเพราะกว่าจะไปถึงจุดหมายสามีอาจไม่อยู่ข้างคุณแล้วก็ได้นะ ในช่วงสถานการณ์ตึงเครียดมีความกดดันทุกวันมันคือช่วงเปราะบางของชีวิตคู่เลยนะ เกิดเจอจังหวะนรกสามีเจอผญ.อื่นที่เหมือนความสบายใจให้เค้าถึงตอนนั้นช้างมาฉุดก็ไม่อยู่แล้ว บางช่วงเราก็ต้องละทิ้งบางอย่างเพื่อรักษาของสำคัญไว้

อย่าไปคิดว่าก่อนหน้านี้คุยกันแล้วก็ok คือตอนนั้นเค้าก็ว่าเค้าไหวนั่นแหละแต่พอเจอสถานการณ์จริงเค้าไม่ไหวไงแล้วตอนนี้มันกำลังกัดกินใจสามีคุณอยู่แล้วก็ลามมายังครอบครัวแล้ว

อีกอย่างอย่าไปแคร์ญาติให้มากเลยต่อหน้าชื่นชมยินดีเก่งอย่างนั้นเก่งอย่างนี้ลับหลังเค้าอาจนินทาอยู่ดีก็ได้ ทางที่ดีอย่าไปอินกับเรื่องจอมปลอมพวกนี้ให้มากเลยค่ะคนอื่นเค้าไม่ใส่ใจชีวิตเราขนาดนั้นหรอกอย่างมากก็เป็นหัวข้อให้เค้าพูดถึงวันสองวันผ่านไปเค้าก็ต้องไปใช้ชีวิตของตัวเองเหมือนกัน
ตอบกลับ
0 4
เบื่อใส่แว่น
วันศุกร์ เวลา 16:22 น.
zealottan ถูกใจ, sanhaอะไรนะ!! ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2881936 ถูกใจ, ฟ้าหมาดฝน ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 58
ปัญหาเรื้อรังแน่นอนครับ รอวันปะทุ และพัง ครับ

มันจะวนลูปแบบนี้ไปเรื่อยไม่ต่ำกว่า 10 ปีแน่นอน ถ้าไลฟ์สไตล์เหมือนเดิม และจะกู้สินเชื่อมาหมุนเรื่อยๆ เป็นแบบนี้เรื่อย ๆ ตื่นมาอีกทีสินเชื่อเต็มวงเงินกู้ไม่ได้ เครียดหนักกว่าเดิมแน่นอนครับ ผมขอทายเล่นๆ นะครับ ปัญหานี้ต้องมาหาคุณแน่นอนครับ

การแก้ปัญหาที่ดีสุดตอนนี้

ย้ายงานเพื่ออัพฐานเงินเดือน ทั้งสองคนครับ พอจะทุเลา และหายใจได้คล่องขึ้นครับ

ผ่อนบ้านและรถ 50,000 ใจถึงมากครับ กะลูกอีก 3 คน ยอมใจครับ ผมคนเดียว 100k ยังไม่กล้าเลยครับ
ตอบกลับ
0 1
Subject
วันศุกร์ เวลา 16:22 น.
นี่แม่เอง ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 59
อ่านจบแล้วรู้สึกว่าเครียดเหมือนสามีคุณเลย
ตอบกลับ
0 0
โตนสะตอ ณ เขาบรรทัด
วันศุกร์ เวลา 16:39 น.
ความคิดเห็นที่ 60
เอาจริงๆ เงินเดือนสองคนนิดเดียว แต่ซื้อของแพงเกินตัวหลายอย่าง แถมมีลูกสามคน เรียนน่าจะแพงอีก

แนะนำไปก็คงไม่ทำ

ทางสว่างคือ
1. ให้ลูกเรียน รัฐบาล
2. ขายรถ
3. ประหยัด
4. บ้านผ่อนไป

สามี ถ้าเขาเครียดหนักก็บอกให้เขาหางานให้ได้ก่อนค่อยออก บางทีที่ทำงานเครียดก็น่าสงสาร ให้ชีวิตเขาเถอะ
ตอบกลับ
0 0
Spirit_Circle
วันศุกร์ เวลา 16:46 น.
ความคิดเห็นที่ 61
คุณ​กำลังหลอกตัวเอง และสร้างภาพเพื่อหลอกญาติๆ ว่ามีฐานะทางการเงินที่ดี (ทั้งที่ บ้าน รถก็ยังผ่อน ค่ากินอยู่ก็หมุนไม่ทัน)​ เพราะใส่ใจคำคนอื่นมากเกินไป

1. จงเลิกไปงานรวมญาติได้แล้ว คบแต่ญาติคนที่รักเราดีกับเราจริงๆ ส่วนญาติที่เอาแต่อวดร่ำอวดรวยกัน อย่าไปพบปะเขา มันไม่ส่งผลดีอะไรในชีวิตเลย

2. ภาระการเงินอะไร ตัดได้ให้ตัดลงหน่อย รถแค่อยากได้สนองกิเลส หรือว่าจำเป็นจริงๆ? บ้านต้องหลังใหญ่ต้องแพงเท่านี้ไหม หรือบ้านเล็กลง ถูกลงก็มีความสุขได้? ระหว่าง บ้าน, รถ และ ลูก, สามี ถ้าจะยอมสละอะไรสักอย่าง คุณ​จะเลือกอะไร?

3. อยากให้ปรับทรรศนคติ เรื่องการประสบความสำเร็จในชีวิต และการมีความสุขที่ไม่ยึดกับวัตถุและหน้าตาทางสังคม
ตอบกลับ
0 1
สมาชิกหมายเลข 1098521
วันศุกร์ เวลา 16:55 น.
สมาชิกหมายเลข 5021567 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 62
100,000 ขึ้น แต่ส่งลูกเรียนโรงเรียนดี ผ่อนบ้านเยอะ แทบจะเกินครึ่ง ค่าบัตร ค่ากิน ค่าน้ำมัน ค่าอื่นๆ ไม่ถือว่าเยอะเลยค่ะ
ถ้าแสนขึ้น แต่คุณอยู่ทาวน์โฮม เดือนละ 15,000 รถมือสองดีๆแต่ปิดจบได้เลย คุณจะไม่เครียดเท่านี้ (ลูกเยอะ ทุกอย่าง*3 นะ)
การลงทุนมันก็ดี แต่เงินเก็บคือสิ่งสำคัญที่สุด และรองลงมาคือความสุขในครอบครัว ระวังสามีเค้าจะเครียดเกิน มันจะส่งผลมากกว่านี้

ถ้ามองว่าครอบครัวคือทีมเดียวกัน สามีบอกเครียด ก็ต้องมาร่วมกันหาทางออก เพลาค่าใช้จ่าย
หรือคุณสามารถหาเพิ่มได้อีกไหม? หน้าตาเอาไว้ทีหลัง สุขภาพจิตลูก,สามี, หรือตัวเราเอง มันต้องมาก่อน
ตอบกลับ
0 0
Trytobeasthesamegirl
วันศุกร์ เวลา 17:02 น.
ความคิดเห็นที่ 63
เงินเดือนรวมกัน 2 คน 1แสน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่า รรลูก ค่าเลี้ยงดูอีก บอกเลยว่าไม่พอค่ะ
ฟังแล้วตึงมาก
ตอบกลับ
0 0
ป้าแว่นอ้วนกลม
วันศุกร์ เวลา 17:02 น.
ความคิดเห็นที่ 64
โพสท์ของคุณมีแต่คำว่า “รวมญาติ”
“อยากได้”
“อยากมี”
“เราอยาก”

คุณถามลูกหรือยังว่าเขาอยาก “รวมญาติ” อยากมีหน้ามีตาอะไรแบบคุณ โดยแลกกับความตึงเครียดในครอบครัวตอนนี้ไหม
ตอบกลับ
0 1
สมาชิกหมายเลข 889672
วันศุกร์ เวลา 17:07 น.
สมาชิกหมายเลข 7268847 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 65
สามีคุณพูดถูกค่ะทำไมคุณต้องไปสนใจคนอื่น เลิกสนใจวันรวมญาติค่ะ *****

คนที่คุณควรจะแคร์ที่สุดคือสามีและลูกๆ ค่ะ ไม่ใช่หน้าตา ไม่ใช่ญาติ

ถ้าสามีอยากลาออก จากที่ทำงาน ลองเสนอให้เค้าหาที่ทำงานใหม่ให้ได้ก่อนแล้วค่อยลาออกจะดีไหม ..อย่างไรก็ตาม ไตร่ตรองดูให้ดีว่าใครที่สำคัญกับชีวิตคุณ ถ้าท้ายที่สุดแล้วสามีทำงานต่อไปที่เดิมแล้วทุกข์มากรวมถึงเครียดมากกับภาระการผ่อนอะไรต่างๆ ก็แนะนำให้ลาออกค่ะ แล้วลดสเกลบ้านลง ที่สำคัญเลิกกลัวเสียหน้าเลิกแคร์ญาติค่ะ ไม่มีประโยชน์กับชีวิต

ปล. มีบ้านใหญ่ มีรถคันใหญ่ แต่คนอยู่ไม่มีความสุขเลยมันจะมีประโยชน์อะไร
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 17:16 น.
ตอบกลับ
0 1
Skybaby
วันศุกร์ เวลา 17:12 น.
น.ส.ขอจันทร์… ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 66
ถ้า จขกท อ่านทุกคอมเม้นและอ่านด้วยสติ ไม่ใช้อารมณ์ น่าจะได้คำตอบแล้วว่าควรทำอย่างไร โปรดทำตามคำแนะนำเถอะครับ สงสารเด็กๆอีก 3 ชีวิต
ตอบกลับ
0 0
Lumlukka6
วันศุกร์ เวลา 17:16 น.
ความคิดเห็นที่ 67
หากในอดีตคุณเคยทุกข์ที่มีน้อยกว่าญาติ นั่นเพราะคุณสำคัญมั่นหมายในคำสรรเสริญ คำเยินยอ และการได้รับความยอมรับ ที่เกี่ยวกับของนอกกายมากไป เมื่อยังไม่มีและหาไม่ได้จึงทุกข์

และวันนี้คุณก็กำลังทุกข์แบบเดียวกันกับครั้งอดีต คือทุกข์เพราะความสำคัญมั่นหมายตัวเดียวกัน เมื่อคุณได้ลาภ ยศ สรรเสริญ จึงไม่อยากสูญเสียมันไป

แต่จริงๆแล้วถ้าเข้าใจตามความเป็นไปในโลกธรรม8 จะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่แน่นอนเลย จากไม่มี ก็มามี และในวันนึงก็จะไม่มีอีก ดังนั้นความสุขที่จะต้องพึ่งพิงมันจึงไม่มั่นคงเลย

แล้วมันไม่ต้องขวนขวายหามาหรือ ก็ไม่ใช่ ก็หาตามความเหมาะสม และใช้มันอย่างเข้าใจว่ามันเป็นของที่ต้องเสื่อมอย่างแน่นอน

……….

แม้แต่ความทุกข์ของสามี หรือของคุณ มันก็ต้องเสื่อม ถ้าจะให้มันเสื่อมไวแบบเห็นๆได้ก็ลองชวนสามีสวดมนต์ไหว้พระด้วยกันวันละ 15-30 นาที ดูสิ แล้วจะเจอปาฏิหารย์ว่าเพราะความเสื่อมที่เป็นธรรมดาโลกนี่แหละ ที่ทำให้ทุกข์หายไปได้ด้วยเหมือนกัน พอทุกข์คลายและสมองปรอดโปร่งก็อาจจะพบทางออกได้ง่ายนะ

ป.ล.1 ถ้าไม่ชอบสวดมนต์ก็อ่านหนังสือ วาดรูปคนในครอบครัว วาดรูปเรื่องราวในอดีตที่น่ารักๆ เรื่องในชีวิตประจำวัน หรือทำอะไรก็ได้ที่ต้องใช้สติและสมาธิ โดยจะต้องฝึกอยู่กับเรื่องนั้นเรื่องเดียวให้ได้ ถ้าระหว่างนั้นกลับไปคิดกลับไปทุกข์ก็ฝึกกลับมาอยู่กับกิจกรรมใหม่ เวลานี้ยังไม่ต้องคิด ทำไปจนครบกำหนดเวลา และควรทำทุกวัน

ป.ล.2 คุณมีความอดทนและมีวุฒิภาวะมากนะ จึงไม่มีการโต้ตอบคอมเม้นท์ด้วยอารมณ์ ตรงนี้เป็นทรัพย์ภายในประจำใจที่หลายคนที่ตั้งกระทู้ไม่มี และเมื่อมันอยู่ภายในก็ทำให้ญาติอาจจะไม่สังเกตเห็น หรือคุณเองอาจเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จริงๆมันเป็นสิ่งที่วิเศษนะ น่าชื่นชม
ตอบกลับ
0 1
Adesso
วันศุกร์ เวลา 17:30 น.
สมาชิกหมายเลข 6830694 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 68
เงินเดือนรวมครอบครัวประมาณนี้ มองว่า เป็นชนชั้นกลางค่อนไปทางต่ำ
เงินที่ต้องผ่อนขนาดนี้ มองว่า ซื้อบ้าน ซื้อรถ เกินศักยภาพตัวเอง
ยิ่งมีลูก 3 คน เห็นว่าให้เข้า รร ดีๆ อีกก็น่าจะค่าใช้จ่ายอีกเพียบ

ถ้าในกลุ่มญาติ ครอบครัวคุณดูดีสุดแล้ว ก็แปลว่า ญาติพี่น้องคุณไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร เป็นกลุ่มคนรากหญ้าในสังคมแค่นั้น คุณไม่จำเป็นต้องไปอวดอะไรเขาแล้ว ประคองชีวิตตัวเองให้รอด ก่อนที่สามีคุณจะเป็นซึมเศร้า หรือคิดสั้น
ตอบกลับ
4 5
Chicha@united
วันศุกร์ เวลา 17:51 น.
สมาชิกหมายเลข 2363856 ถูกใจ, Trytobeasthesamegirl ถูกใจ, ตายประชดป่าช้า ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2881936 ถูกใจ, ฟ้าหมาดฝน ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 69
เข้ามาให้กำลังใจครับ
ตอบกลับ
0 0
พริกแกงหมูกรอบไม่ผัก
วันศุกร์ เวลา 18:12 น.
ความคิดเห็นที่ 70

แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 18:14 น.
ตอบกลับ
2 1
tokei/tookei
วันศุกร์ เวลา 18:13 น.
สมาชิกหมายเลข 7268847 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 71
ว่าจะเข้ามาด่า แต่คนอื่นด่าแทนผมหมดล่ะ

แหม่ บอกให้สามีทน เพราะสองคนเงินเดือนร่วมกันเกินแสน ผมเดาว่าสามีคุณ 8 หมื่น คุณ 3 หมื่นหรือเปล่า
ไว้ให้คุณหางานระดับ 8 หมื่นแล้วแฟนคุณยอมถอยมางาน 3 หมื่นก่อนครับ
ตอนนั้นถ้าแฟนคิดจะออกก็ค่อยมาว่าเขานะครับ

งานบางงานมันเครียดนะครับ ไม่ใช่ตอกบัตรเข้า 9 รอออก 6 โมง ครบเดือน เงินเดือนเข้าชิลๆ นะครับ งานเครียดมันก็คืองานเครียดครับ
ตอบกลับ
0 1
สมาชิกหมายเลข 6095458
วันศุกร์ เวลา 18:49 น.
Trytobeasthesamegirl ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 72
ว่าละกระทู้แรก
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 855423
วันศุกร์ เวลา 18:54 น.
ความคิดเห็นที่ 73
ชีวิตคุณยังมีหนี้สินอีกมากมาย แถมคุณยังมีสามีที่เป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลา สำหรับเรานี่ไม่ใช่ทั้งความสำเร็จและความสุขเลยค่ะ

ช่างญาติๆ เค้าเถอะนะคะ เค้าจะคิดหรือจะคาดหวังยังไงกับคุณก็ช่างเค้า ยึดเอาความสุขในชีวิตครอบครัวเป็นที่ตั้งดีกว่าค่ะ ชีวิตอีกยาวไกล รักษาสุขภาพ (กายและใจ) เอาไว้อยู่กับลูกนานๆ ดีกว่านะคะ

เราและสามีมีรายได้ต่อเดือนรวมกันเกือบสองแสน เรายังไม่คิดจะซื้อบ้านเดี่ยว + มีลูกเลยค่ะ ใช้ชีวิตแบบพอประมาณ มันมีความสุขมากกว่าจริงๆ นะคะ
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 1965980
วันศุกร์ เวลา 19:00 น.
ความคิดเห็นที่ 74
บ้าน-รถ มีค่าซ่อมบำรุง ค่าประกัน
ลูก ค่าเรียน ค่าเล่น ค่ากิน ค่าประกัน
นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายของตัว จขกท. และสามีเลยค่ะ
แล้วถ้ายิ่งเลี้ยงลูกแบบไม่ให้น้อยหน้าใคร จะยิ่งใช้เงินเยอะนะคะ ต่อไปจะยิ่งห้ามปรามกันลำบาก จะยิ่งใช้เงินเยอะกันไปใหญ่นะคะ
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 6660811
วันศุกร์ เวลา 19:04 น.
ความคิดเห็นที่ 75
จขกท. ติดกับดักวิธีคิดทางสังคม เพราะในสังคมและคุณมีความเชื่อว่า ความสุขของชีวิตที่แท้จริงคือการมีเงินมาก ๆ ตำแหน่งสูง ๆ มีบ้านโตๆ ลูกก็ต้องส่งโรงเรียนชั้นนำ รถต้องดูดี สุดท้ายชีวิตคุณเลยต้องดิ้นรน เพื่อสิ่งนั้น ซึ่งคุณสามารถทำได้ถ้าคุณมีเฉพาะตัวคุณคนเดียว แต่คุณลืมคิดไปว่า คุณมีครอบครัว มีลูก มีสามี ซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องคิดหรือมีวิถีชีวิต แบบที่คุณอยากเป็น แต่คุณกำลังยัดเยียดสิ่งนั้นให้คนอื่นโดยคุณคิดว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุดในความคิดของคุณ

ถ้าคุณไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง วิธีคิดของคุณ เชื่อได้ว่าวันที่สามีคุณทนไม่ไหว เขาก็จะจากไป และวันที่ลูกไม่ได้ดังใจคุณไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดเช่นเรียนไม่เก่ง ไม่อยากเรียนในสิ่งทึ่คุณอยากให้เรียน หรือคบเพื่อนในแบบที่คุณไม่ต้องการสุดท้ายลูกคุณก็จะมีปัญหาในที่สุด และถึงที่สุดแล้วคุณจะประสบความสำเร็จทางการเงินแต่ ล้มเหลวในด้านการใช้ชีวิต การสร้างครอบครัวที่ดี และขาดความสุขทางใจอย่างแท้จริง

เลือกดูครับว่าคุณอยากเปลี่ยนวิธีคิดตัวเองเพื่อคนอื่น หรือคุณอยากทำในสิ่งที่คุณอยากเป็น แต่สูญเสียครอบครัว คุณต้องเลือกเอง

ชีวิตที่มีความสุข มันไม่ใช่การมีเงินมากมาย อยู่บ้านหลังโต ขับรถหรู ๆ แท้จริงแล้วความสุขมันอยู่ที่ใจครับ แค่มีอการกิน มีบ้านอยู่ มีครอบครัวที่เข้าใจกัน แค่นี้ก็พอเพียงสำหรับชีวิตแล้ว ส่วนที่ได้มากกว่านี้จะเท่าไรก็ได้ จะมากหรือน้อยมันคือกำไร คิดแบบนี้คุณถึงจะหมดทุกข์

คุณถูกกรอบของสังคมตีกรอบความสำเร็จจนคุณเข้าใจไปเองว่ามันต้องเป็นแบบนั้น ซึ่งไม่ใช่คุณคนเดียว แต่มีคนอีกหลายร้อยล้านคนบนโลกนี้ ติดกับดักแบบคุณนี่แหละ
ตอบกลับ
0 1
สมาชิกหมายเลข 2969300
วันศุกร์ เวลา 19:11 น.
เทมปุระ ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 75-1
ผมว่า จขกท ไม่ได้ติดกับดักทางสังคมหรอก ไม่งั้นคนรวยคนมีเงินเขาก็ทุกข์กันหมดแล้วสิ ใครจะอยากเกิดเป็นคนรวยหรือดิ้นรนเป็นคนรวยกันละ

ปัญหา จขกท คือมีเงินไม่พอที่จะทำสิ่งเหล่านี้ เลยมีปัญหาตามมา เพราะเงินเดือน 2 คนรวมกันแค่ 1 แสนบาท ดันไปมีภาระมากมายเกินกำลัง จะรับไหว ฐานะขนาดนี้ก้าวผิดทุกด้าน มีลูก 3 คน ผ่อนบ้าน 5 หมื่น + จะบ้าตาย
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 19:53 น.
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 6485819
วันศุกร์ เวลา 19:52 น.
ความคิดเห็นที่ 75-2
นั่นแหละเรียกว่ากับดักสังคม เพราะสังคมสอนให้คนใช้เงินเกินตัว บ้านก็ซื้อแค่พออยู่อาศัยให่ร่มเย็น มีเงินแล้วค่อยขยับขยายก็ได้ แทนที่จะก่อหนี้มากมาย ื รถก็เช่นกันมันแค่เอาไว้ขับไปที่ ๆ เราต้องการไม่ได้มีไ้ว้อวดรวย อีโค่คาร์ หรือเบนซ์ก็ไปถึงที่หมายเหมือนกัน ไปดูในโซเชี่ยลอวดรวยกันเยอะแยะ ชีวิตจริงหนี้บานเบอะ

ไม่ใช่แค่ จขกท. หรอกที่ตกหลุมหนี้เพราะเหตุผลแบบนี้ ึคนส่วนมากในสังคมเป็นกันทั้งนั้น ครอบครัวหาความสุขไม่เจอ ดูจากหนี้ครัวเรือนในระดับประเทศก็พอจะวิเคราะห์ได้ ถ้าคนไม่ฉลาดในการใช้เงินก็เป็นเหยื่อ เครียดกันไป ชีวิตหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารรวยแหละถึงจะบอกว่าตัวเองสุขใจ
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 2969300
เมื่อวานนี้ เวลา 06:36 น.
ความคิดเห็นที่ 76
ลูกสามคน ส่งเรียนค่าเทอมคนล่ะเท่าไร​ แค่นี้ก็เห็นเงินแล้ว เงินเดือน​ 2 คน​ แสนนิดๆ ไม่พอหรอกครับ

น่าเครียดจริงๆล่ะ ลดรายจ่ายไม่ได้ก็ต้องเพิ่มรายได้ ไปพิจารณาดูครับ
ตอบกลับ
0 0
โอซามุไค007
วันศุกร์ เวลา 19:15 น.
ความคิดเห็นที่ 77
สามีคุณถือว่าโชคร้าย ที่ต้องมาแต่งงานกับ ผญ. แบบคุณ ที่เน้นหน้าตาทางสังคม แต่บุคลิกเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น

คือเงินเดือนคุณ 2 คน รวมกัน = 1 แสนโดยประมาณ มันไม่ใช่คนละแสนบาท = คือ 2 แสน
ทีนี้เงินเดือน 1 แสน 2 คนรวมกัน แต่ดันไปผ่อนบ้านเดือน+ รถ 5x,xxx เนี่ยนะ คือวางแผนการเงินไม่เป็นเลยหรือครับว่ามันเกินฐานะไปมาก เกินฐานะครอบครัวยังไงก็ลำบาก เป็นปัญหาทะเลาะกันทุกวันนี้เนื่องจาก ผ่อนบ้านเกินกำลังนี่ละค่าผ่อนบ้าน + รถ ปาเข้าไป 50% ของรายได้ อื่น ๆ ก็เลยต้องประหยัดเอาและมีปากเสียงกันตามมา ทั้งหมดเกิดจากตัวคุณเองทั้งนั้นละ

ที่คุณเขียนมาไม่ใช่ผมไม่เห็นด้วย คุณเขียนมานะถูกหมดละ แต่ไม่ถูกอยู่เรื่องเดียวคือ ฐานะคุณไม่พอที่จะทำสิ่งเหล่านี้
ถ้าฐานะไม่พอ คุณต้องลดเสปกทุกอย่างลงมา ไม่ใช่ไปทำตามคนอื่น ไม่งั้นเหนื่อยครับ ชีวิตครอบครัวก็แย่ไปด้วย
แล้วเรื่องรถครอบครัวอีก ที่คุณอยากได้ ตอนนี้แค่ผ่อนบ้านค่าเทอมลูก ก็ไม่ไหวแล้ว ยังจะหาเรื่องซื้อรถอีก กรรมชัด ๆ

บ้าน+รถ ถ้าไม่ไหว ลูกยังเล็กต้องเรียน และยังมีลูก 3 คน ผมว่าขายบ้าน+รถ ไปดีกว่าขายขาดทุนก็ช่างมันแต่ตัดรายจ่ายออกไป แต่พยายามขายให้ได้และหาผ่อนบ้านเอาใหม่ เงินเดือนรวมกัน 1 แสน ตอนนี้มีลูกไป 3 คนแล้วภาระเยอะมากเกินกำลัง หาผ่อนอย่าเกิน เดือนนึงไม่เกิน 2 หมื่นต้น ๆ ชีวิตคุณกับสามีจะเครียดน้อยลงในการหาเงิน คุณภาพชีวิตจะดีกว่านี้
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 20:21 น.
ตอบกลับ
0 3
สมาชิกหมายเลข 6485819
วันศุกร์ เวลา 19:45 น.
น.ส.ขอจันทร์… ถูกใจ, นี่แม่เอง ถูกใจ, ตัวกินเห็ด ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 78
คุณมีปมค่ะ เชื่อสามี ปล่อยให้เค้าออกจากงานเถอะ
และคุณ ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อแก้ไขปมในใจคุณค่ะ
ตอบกลับ
0 1
สมาชิกหมายเลข 4095637
วันศุกร์ เวลา 20:12 น.
ตัวกินเห็ด ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 79
ทำไมคิดว่าเงินรวมกันแสนขึ้นนี่ถือว่าดี

เราเคยได้เงินเดือนละแสนกว่า หักนั่นนี่ใช้จ่ายแล้วเหลือ 6-8 หมื่น
ลองคิดเล่นๆ ถ้าจะซื้อบ้านหลัง 10 ล้าน นั่นคือ 10 กว่าปีเลย นี่คือไม่รวมดอกเบี้ยอะไรเลยนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 20:17 น.
ตอบกลับ
0 1
สมาชิกหมายเลข 2376946
วันศุกร์ เวลา 20:16 น.
Bloody Distance ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 80
ปัญหาไม่ใช่มาจากสามีคุณหรอกครับ
ปัญหาคือคุณนั่นแหล่ะ ครับ
ลองนึกทบทวนดีๆนะครับ คุณมองแต่ในมุมตัวเอง ไม่มองมุมคนอื่นเลย

ถ้าใช้คำพูดที่เห็นภาพชัดๆที่คนอื่น่เค้าชอบพูดกัน ก็ประมาณว่า “รสนิยมสูง รายได้ต่ำ” ประมาณนั้นเลย
แต่จริงๆรายได้คุณไม่ได้ต่ำ แต่สิ่งที่คุณเลือกแต่ละอย่าง มันเกินตัวไปครับ (ขอโทษที่พูดตรงๆ)
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 4627293
วันศุกร์ เวลา 20:39 น.
ความคิดเห็นที่ 81
เห็นหัวข้อก็นึกว่า ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีเงินเหลือกินเหลือใช้ แต่สามีไปมีคนอื่นอะไรแบบนั้น ถ้าอย่างคุณเรียกว่าประสบความสำเร็จ ก็คงมีคนประสบความสำเร็จกันเต็มบ้านเต็มเมืองแล้วมั้งค่ะ อย่างคุณไม่ได้เรียกว่าประสบความสำเร็จค่ะ ไม่ได้จะดูถูกอะไรทั้งนั้น อยากพูดให้คุณมีสติ และอยากบอกว่า ชีวิตคู่ของคุณไม่ได้มีปัญหาหรอกค่ะ คุณคนเดียวนั้นแหล่ะที่มีปัญหา คุณแคร์ความคิดคนอื่นมากกว่าความรู้สึกของสามีตัวเองด้วยซ้ำ เหมือนเอาสามีมาไถนาให้คุณได้ข้าวงามๆ ไปอวดคนอื่น แต่เบื้องหลังนั้น ต้องแลกด้วยความเหนื่อย ยาก ลำบากสุดๆ ของสามีคุณและตัวคุณเอง ถ้าคุณยังไม่หยุด และยังจะให้สามีฝีนใจทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่นานหรอกค่ะ ได้หย่ากันแน่ ถึงวันนั้นคุณจะไม่เหลือแม้กระทั่งครอบครัวนะคะ เพราะความอดทนของคนเรามันมีที่สิ้นสุด ชีวิตคนเรามันสั้นเกินไป ที่จะไปมัวเสียเวลาแคร์ความรู้สึก นึกคิดของคนที่ไม่ได้มาร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับคุณ เหมือนสามีของคุณ ใช้ชีวิตในแต่ละวันให้เบาสบาย คนในครอบครัวมีความสุข ไม่เครียด ไปเช่าบ้านอยู่ มีรถมือสองขับ แต่เก็บเงินไว้ทุ่มเทกับการศึกษาของลูก ส่งให้ลูกเรียนโรงเรียนดีๆ เรียนอินเตอร์ได้ยิ่งดี ถ้าเค้ามีความรู้ เค้าก็ได้นำความรู้นั้นไปหาเงินเองได้ในวันข้างหน้า ดูตัวอย่างหมู พิมพิกา เค้าลำบากขนาดไหน สามีก็ไม่มี แต่เค้าก็พยายามส่งลูกให้เรียนโรงเรียนดีๆ ส่งเรียนกอล์ฟ เรียนพิเศษต่างๆ แล้วดูน้องนายตอนนี้ มีทั้งความรู้ ความสามารถ หาเงินได้มากมาย ลงทุนกับลูกดีกว่าไปลงทุนกับวัตถุเพื่อเอาหน้ากับญาติพี่น้อง ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 20:49 น.
ตอบกลับ
0 2
Neverstops
วันศุกร์ เวลา 20:47 น.
Bloody Distance ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6485819 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 82
อ่านหัวข้อกระทู้เห็นบอกประสบความสำเร็จในชีวิต ก็นึกว่าครอบครัวมีกิจการใหญ่โต เหลือกินเหลือใช้ แต่ปัญหาในชีวิตคู่ แต่สรุปคือหมุนเงินไม่ทัน เงินไม่พอใช้ แบบนี้ยังไม่เรียกว่าประสบความสำเร็จครับ ลองใช้ชีวิตแบบพอดีและพอเพียงดูนะครับ อะไรที่ไม่จำเป็นก็ยังไม่ต้องรีบคว้าก็ได้ ถ้ามัวแต่จะเอาทุกอย่าง ผ่อนทุกอย่าง มันก็จะมีแต่ความทุกข์นั่นแหละครับ ซึ่งไม่แปลกเลยที่สามีคุณรับไม่ไหว เป็นผมก็ไม่ไหว ความอยากได้อยากมีนั้นมีได้ แต่ควรดูกำลังตัวเองด้วยว่าไหวแค่ไหน อย่าไปโฟกัสกับวัตถุสิ่งของมากนักเลย เอาใจใส่คนรอบข้างก่อนดีกว่าไหม อย่างรถมันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรอ รถผม 16 ปีแล้วยังใช้อยู่เลย แต่ผมก็ยังไม่เปลี่ยน เก็บเป็นเงินและเอาไว้ดูแลครอบครัวดีกว่า
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 21:12 น.
ตอบกลับ
0 1
สมาชิกหมายเลข 4873473
วันศุกร์ เวลา 21:05 น.
Bloody Distance ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 83
ผัวเมียสองคนรวมกันเงินเดือนแค่แสนบาท
แต่มีลูกสามคน บ้านเดี่ยว รถครอบครัว
คุณใช้เงินเกินตัวไปมากจริงๆ

หากไม่มีงานเสริม เรามองไม่เห็นออกเลยว่า ตรงไหน ที่เรียกว่าชีวิตมาไกลมาก

ไอ้ที่มาไกลมาก คือ รายได้ หรือ หนี้สินกันแน่

ถ้าหารายได้ไม่มากพอกลบหนี้และมีเก็บ จนมันพอกหางหมู สุดท้าย คุณอาจไม่เหลืออะไรเลย เพราะธนาคารจะมายึดบ้าน ไฟแนนซ์จะมายึดรถ

ลดความหน้าบางลง แล้วใช้ชีวิตกับความเป็นจริง

สมัยนี้ สองคนผัวเมียเงินเดือนแสนนึงยังน่าห่วงเลย เพราะตกแค่คนละห้าหมื่นเอง นี่มีลูกอีกสาม ไม่แปลกที่การเงินจะตึงมากๆ หากไม่มีบัตรเครดิตมาช่วย คงไปต่อไม่ได้นานขนาดนี้
ตอบกลับ
0 1
noopin
วันศุกร์ เวลา 21:06 น.
น.ส.ขอจันทร์… ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 84
จากหัวข้อกระทู้ แสดงว่า จขกท ไม่เข้าใจต้นเหตุของปัญหาในครั้งนี้จริงๆ แบบมองไม่ออกเลยว่าเพราะอะไร

และ จขกท ไม่เข้าใจคำว่า ประสบความสำเร็จ คืออะไร

ถ้าคำว่า ประสบความสำเร็จ คือการอยากได้อะไรแล้วได้ แต่ผ่อนไม่ไหว แบบนี้ก็มีคนประสบความสำเร็จกันเยอะมากเลยนะ5555
ตอบกลับ
3 2
สมาชิกหมายเลข 6423588
วันศุกร์ เวลา 21:10 น.
ฟ้าหมาดฝน ถูกใจ, นี่แม่เอง ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 85
รายได้ครอบครัวก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ แต่ใช้เงินเกินความเหมาะสมที่หาได้มันเลยเหนื่อย
ลูกเยอะค่ะ3คน กว่าจะผ่อนรถจะหมด ยังไม่ทันหายใจหายคอตอนนั้นลูกก็โตแล้ว
สมัยนี้เงินเดือนให้ลูกเรียนมหาลัยแค่ค่ากินค่ารถไม่รวมหอคือราวๆหมื่นบาทนะคะ 3คนก็ราวๆ3หมื่น
ไหวแน่นะวิ
ตอบกลับ
0 0
ตายประชดป่าช้า
วันศุกร์ เวลา 21:22 น.
ความคิดเห็นที่ 86
การเงินมีปัญหานี่เรียกว่าประสบความสำเร็จหรอคะ
ดูจะตึงมากเลยนะในบ้านอะ ทั้งบ้านทั้งรถลูกอีก 3
แค่ได้หน้าเวลารวมญาติ แต่เข้าบ้านร้อนเป็นไฟเลย
ตอบกลับ
0 1
คิน * คาเนะ
วันศุกร์ เวลา 21:39 น.
Bloody Distance ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 87
ในสังคมไทยมีคนแบบจขกทเยอะไหมครับ ต่อไปจะไม่อิจฉาคนที่ดูภายนอกรวยแล้ว เพิ่งรู้ว่าเข้าบ้านแล้วร้อนเป็นไฟ หาความสุขไม่เจอเลย
ตอบกลับ
0 2
สมาชิกหมายเลข 6751892
วันศุกร์ เวลา 21:55 น.
สมาชิกหมายเลข 6485819 ถูกใจ, ตัวกินเห็ด ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 87-1
ผมไม่แน่ใจว่ามีคน แบบ จขกท นี้เยอะไหม เน้นสร้างภาพทั้งที่ตัวเองไม่มี ถ้าสังคมชนชั้นกลางกับล่างลงไปก็เห็นได้บ่อย ที่จริง จขกท นี้ไม่ได้ประสบผลสำเร็จในชีวิตอะไรเลย มีแต่หนี้สินทั้งนั้นบ้าน รถ ไม่หมดหนี้ และมีแววก่อหนี้ใหม่บัตรเครดิตอีก แค่ครอบครัวธรรมดาเท่านั้นเอง ถ้าจะบอกว่าประสบผลสำเร็จเอาพันทิปเป็นเกณก็ได้ แม้ไม่ใช่หลักสากล
คือ ถ้าจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ ในเบื่องต้นก็ ไม่มีหนี้สิน มีบ้าน มีเงินลงทุนในหุ้น หุ้นกู้ กองทุน อสังหา มี passive income หรือสามารถออกจากงานประจำได้แล้วในวัยที่เหมาะสม ไม่ใช่รอเกษียณตามรอบ ออกได้เร็วก็ถือว่าประสบความสำเร็จได้เร็ว
แต่ จขกท นี้ สิ่งที่ว่ามานี้ยังไม่มีสักข้อ ยังห่างไกลมาก คนอื่น ๆ ในสังคมส่วนมากก็ไม่มีสิ่งเหล่านี้ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเดินมาถึงจุดนั้น ต้องคนประสบความสำเร็จระดับนึงเลยละ

จริง ๆ คนรวยที่อยากอวดก็มี คนรวยที่ไม่อยากอวดก็มี
คนจนหรือชนชั้นกลางก็เหมือนกัน ที่อยากอวดรวยก็มี เพราะเขามีจริง ๆ แต่ที่ไม่มีหรือหน้าใหญ่แต่อยากอวดก็มี ที่ไม่อยากอวดก็มี
แก้ไขข้อความเมื่อ เมื่อวานนี้ เวลา 09:10 น.
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 6485819
เมื่อวานนี้ เวลา 09:08 น.
ความคิดเห็นที่ 88
ครอบครัวเราอยู่ทาวเฮ้าส์หลังเล็กๆเอง แต่รีโนเวทกับซื้อของในบ้านเกือบล้านใช้เงินสด ตอนนี้เราเหลือผ่อนบ้าน 3 แสน ผ่อนเดือนละ 4700 มีลูก 3 คน 4 ขวบ 2 ขวบ และในท้อง มีรถยนต์ที่ผ่อนหมดแล้ว 1 คันวีออส เพิ่งซื้อรถครอบครัวไป ป้ายแดงกำลังผ่อน 4 ปีหมด ตกลงกันแล้วคือจะไม่สร้างหนี้เพิ่ม ต้องให้บ้านกับรถหมดก่อน ถึงจะซื้อบ้านเพิ่มอีกหลัง หรืออาจจะไม่ซื้อเพราะลูกกำลังเรียนแล้ว รายได้ 70k เลี้ยงลูกเอง ทำงานบ้านเอง ทำกับข้าวเอง ในความคิดเรานะ เราว่าคุณมีหนี้ก้อนใหญ่พร้อมๆกันเยอะไป ทำให้เงินเดือนกว่าครึ่งต้องมาชำระหนี้ ยังไม่รวมค่ากินค่าใช้จ่ายในครอบครัว ทำให้ตึงเกินไป อีกอย่างรถครอบครัวขนาดเรายังเอาแค่ เวลรอท 8 แสนเพราะถ้ารถครอบครัวพวกหลักล้านสามล้านห้านั่นหนักเกินไป จริงๆรายได้คุณ 2 คนแสนกว่านั่นซื้อบ้านเดียวไม่ผิดนะ แต่การเป็นหนี้บ้านคือหนี้ระยะยาว ถ้าคุณผ่อนแบบ 25-30 ปี นั่นก็ดอกบานเบอะ คุณไม่ควรซื้อรถ น่าจะรีบๆเก็บตังโป๊ะบ้านให้หมดก่อน เพราะเพื่อนเราก็คล้ายๆแบบนี้ เงินเดือน 5 หมื่น ซื้อบ้าน 5 ล้านกว่าผ่อน 30 ปี ตกเดือนละ 3 หมื่นทุกวันนี้ก็เครียดเจอที่ทำงานบีบ อยากลาออกแต่ออกไม่ได้ จะมาทำงานที่เดียวกะแฟนเรา เค้าก็ทำไม่ได้อีก เลยไม่รู้จะช่วยยังไง
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 6307670
วันศุกร์ เวลา 22:10 น.
ความคิดเห็นที่ 89
2 คนแสนนึง ถือว่าไม่เยอะนะคะ + ลูกสามอีก กระเบียดกระเสียดมากๆ
ตอบกลับ
0 2
สมาชิกหมายเลข 7164896
วันศุกร์ เวลา 22:14 น.
Bloody Distance ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2363856 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 90
ทบทวนชีวิตดูครับ ว่าจริงๆ แล้ว สิ่งที่ชีวิตต้องการคืออะไร
ตอบกลับ
0 0
thatr
วันศุกร์ เวลา 22:15 น.
ความคิดเห็นที่ 91
อ่านแล้วสงสารสามีคุณจขกทและลูกจังค่ะ ที่พอถูไถอยู่ตอนนี้ ความเป็นอยู่ในชีวิตเป็นยังไงบ้างคะ นอกจากมีบ้านมีรถไว้ได้รู้สึกดีในวันรวมญาติ เอาใจช่วยให้จขกทมีสติคิดได้เร็วๆค่ะ
ตอบกลับ
0 1
สมาชิกหมายเลข 6672376
วันศุกร์ เวลา 22:37 น.
สมาชิกหมายเลข 2363856 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 92
หลาย ๆ ความเห็นเป็นไปในทางเดียวกัน… เราเห็นด้วยกับความเห็นส่วนใหญ่เลยค่ะ
.
จขกท. เคยถามตัวเองไหมคะ? ว่าทำไม คุณถึงแคร์ความคิดของคนอื่น มากกว่า ความเครียด ความไม่สบายใจ ของสามี-ที่เป็นคู่ชีวิตของคุณเองคะ?
.
ยิ่งเป็นความเครียดจากการทำงาน… ชีวิตคนเราในแต่ละวัน ใช้เวลาทำงานมากกว่าอย่างอื่น… ถ้าสิ่งที่ทำ ทำให้เครียด ไม่มีความสุข ตื่นเช้ามาก็ผะอืดผะอม เพียงแค่คิดว่า วันนี้จะต้องไปทำงาน หรือ นอนไม่หลับเพียงแค่รู้ว่าพรุ่งนี้เราต้องไปทำงานนั้นที่เราเครียด… (เราเคยเป็น) ก็ไม่ไหวแล้วค่ะ
.
แล้วพอเครียด มันจะส่งผลกระทบไปทุกอย่าง สุขภาพกาย ใจ ครอบครัว ลูก… แล้วทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทางทร่แย่ลงค่ะ
.
ลองคิดกลับกันว่า ถ้าคุณเป็นคนที่เครียดเอง อยากลาออกจากงาน เพราะไม่มีความสุข แต่คู่ชีวิตคุณไม่สนใจความรู้สึกของคุณ ยังอยากให้คุณฝืนทำงานที่ทำให้เครียดต่อไปอย่างน้อย 10 ปี… คุณจะรู้สึกอย่างไรคะ?
ตอบกลับ
0 0
nanatsu
วันศุกร์ เวลา 22:40 น.
ความคิดเห็นที่ 93
ชีวิตคุณมีปม และตอนนี้คุณก็แก้ปมผิดวิธี

ชีวิตคุณไม่ได้เรียกว่าประสบความสำเร็จ เพราะตอนนี้คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรสักอย่าง สิ่งที่คุณมี มีอยู่อย่างเดียวคือมีหนี้สิน

เงินเดือนสองคนรวมกันแค่แสนกว่า ต้องหมดไปกับการผ่อนชำระหนี้สินและค่าใช้จ่าย

แบบนี้เรียกว่าใช้เงินเกินตัว

คุณบอกว่าเด๋วก็จะผ่านไป บอกได้เลยไม่มีทาง

1. การผ่อนบ้านที่มีมูลค่าสูง (คุณบอกต้องการหลังใหญ่) ดอกเบี้ยก็จะสูงไปด้วย นั่นหมายคุณทำได้เพียงแค่ชำระค่างวดแต่ล่ะเดือน และแทบไม่มีเงินเหลือมาโปะบ้าน

คุณต้องผ่อนไป 30 ปี กดเครื่องคิดเลขดีๆนะครับ คุณบอกว่ามูลค่าล้านมีแต่จะสูงขึ้น แต่ลองดูภาระที่คุณต้องจ่ายทั้งหมด เงินต้นบวกดอกเบี้ย มันคือ 2.5 เท่าของราคาบ้านที่คุณกู้นะครับ

2. รถ ให้เดา คุณเลือกผ่อน 7 ปี กว่าจะผ่อนเสร็จรถก็เก่าแล้ว ค่าเสื่อมซัดไป 90% และด้วยนิสัยจมไม่ลง คุณก็ต้องอยากได้รถใหม่ เป็นหนี้รอบใหม่ เพราะคุณไม่มีเงินเก็บก้อนใหญ่เลย หมดไปกับค่าใช้จ่ายทุกเดือน

3. ลูก 3 คน คุณส่งโรงเรียนดีๆ เพื่อนของลูกคุณส่วนใหญ่ก็ต้องมาจากครอบครัวมีฐานะ (รวยจริง ไม่ได้เป็นหนี้แบบคุณ) เพื่อนมีอะไร ลูกก็อยากมีตาม ด้วยนิสัยของคุณ เสียอะไรก็เสียได้ แต่เสียหน้าไม่ได้ ก็ต้องสรรหามามห้ลูก ทีนี้จะไปเอาเงินจากไหนล่ะ ก็ใช้บัตรเครดิตไง ผ่อนทุกอย่างให้ลูก ไอโฟน ไอแพด บลาๆ

4. ชีวิตแบบคุณ เค้าเรียกว่าชีวิตหนี้ หาเงินเพื่อใช้หนี้ ไม่มีวันจบสิ้น และเมื่อถึงวันที่คุณอ่อนแรง และโดนไล่ออกจากงาน

วันนั้นคุณจะได้พบว่า สามีคุณพูดถูก และคุณน่าจะเชื่อเค้าตั้งแต่แรก

น่าสงสารสามีแบะลูกคุณมากๆครับ
ตอบกลับ
0 4
อย่ากลัวฝน
วันศุกร์ เวลา 23:01 น.
นี่แม่เอง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2363856 ถูกใจ, RoadRider ถูกใจ, KHIMM ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 94
—> ทำให้ตอนนี้คือเรากลายเป็นคนที่ตั้งตัวและมีมากสุดคนนึงในเวลารวมญาติค่ะ

เงินเดือนสองคนรวมกันแสนขึ้น ผ่อนบ้านผ่อนรถเดือนละ 5 หมื่นกว่า ลูก 3 คน ยังไม่รวมค่าเทอม ค่าเรียนพิเศษลูก ค่ากินอยู่ ค่าใช้จ่ายเยอะอย่างนี้แล้วทำไมจขกท.ถึงยังคิดว่าตั้งตัวได้และมีมากที่สุดคนหนึ่งเวลารวมญาติคะ คุณประสบความสำเร็จตรงไหนอะ ใช้จ่ายเกินตัวจนหมุนเงินไม่ทัน ยึดติดอยู่กับความอยากมี อยากอวดให้คนอื่นเห็น เราว่าญาติคุณบางคนอาจมีมากกว่าคุณด้วยซ้ำ แต่เขาไม่อวด ไม่โชว์ ทำตัวธรรมดา คุณเลยคิดว่าเขามีไม่มากเท่าคุณไง
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 23:05 น.
ตอบกลับ
0 0
Sonnenschein
วันศุกร์ เวลา 23:04 น.
ความคิดเห็นที่ 95
คุณไม่สังเกตหรือว่าคุณเริ่มข้อความด้วยปมด้อยเรื่องการเปรียบเทียบด้านหน้าตาฐานะในหมู่ญาติ
และคุณก็จบข้อความด้วยเรื่องเดียวกัน คือเรื่องหน้าตาฐานะในหมู่ญาติ
นั่นแสดงว่า มันคือปมขนาดใหญ่ในใจคุณ

คุณเลยเลือกที่จะเซ่นสังเวยทุกอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสามี (ตอนนี้) หรือลูก (ในอนาคต)
เพื่อปิดปมนี้ และรักษาหน้าตา ความสบายใจของคุณ
คุณปล่อยให้ทุกวินาทีของครอบครัว พบเจอกับความเครียด ความเสี่ยงที่จะแตกแยก
เพียงเพื่อเวลาแค่ 1-2 ชั่วโมง ปีละครั้ง ที่คุณจะได้หน้าตาในวันรวมญาติ
น่าสงสารครอบครัวคุณนะครับ

พูดไปก็คงไม่เข้าใจ เพราะคุณมองเห็นแค่ความสบายใจของตัวเอง
จนมองข้ามความทุกข์ของคนในครอบครัว
แก้ไขข้อความเมื่อ วันศุกร์ เวลา 23:10 น.
ตอบกลับ
0 1
Noname-1234
วันศุกร์ เวลา 23:07 น.
นี่แม่เอง ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 96
สงสารสามีคุณน่ะค่ะ เราเคยอยู่สถานการณ์เงินเดือนเฉลี่ย เกือบครึ่งแสน แต่งานกดดัน และเครียดมากจนอยากตายมาแล้ว
ชีวิตไม่ต้องมีสิ่งของ พันธนาการใดๆมันไม่สำคัญเลย ถ้าชีวิตแย่เครียด ไม่มีความสุข
ตอบกลับ
0 0
milkyicecream
วันศุกร์ เวลา 23:08 น.
ความคิดเห็นที่ 97
ทำไมแคร์คำพูด แคร์สายตาคนอื่นจังเลยค่ะ เค้าจะคิดยังก็ช่างนั่นมันความคิดเขา บาทเดียวเค้าก็ไม่มาช่วยคุณ ยามลำบากเค้าช่วยคุณไหม แต่คนที่จะอยู่ข้างเราคือสามีและลูก เอาครอบครัวให้รอดก่อน ก่อนจะเอาหน้าตานะคะ คนอื่นสำคัญกับคุณขนาดนั้นเชียวให้ค่าอะไรจะขนาดนั้น
ตอบกลับ
0 0
Amy Areeya
วันศุกร์ เวลา 23:11 น.
ความคิดเห็นที่ 98
ประสบความสำเร็จในชีวิตหลายๆอย่าง เพี้ยนหืม
ก็อยู่ที่เป้าหมายชีวิตของแต่ละคนมั้งคะ
บางคนเป้าหมายอยู่ในทาง ธรรมะ
บางคนเป้าหมายอยู่ในทาง โลก
ได้อย่างก็ต้องเสียอย่างค่ะ เราคิดอย่างนั้น
ถ้าอยากประสบความสำเร็จในทางชีวิตคู่
ก็ต้องเสียสละความสุขส่วนตัวไปบางอย่างค่ะ บางครั้งบางคน ยอมเสียสละการเป็นตัวของตัวเองไปเลยก็มีค่ะ
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 6637836
วันศุกร์ เวลา 23:21 น.
ความคิดเห็นที่ 99
ถ้าสามีคุณเป็นทุกข์และอยากออกจากงานลองช่วยเค้าหางานใหม่ค่ะ
ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 6253349
วันศุกร์ เวลา 23:32 น.
ความคิดเห็นที่ 100
ผู้หญิง
ตอบกลับ
0 0
<<แอนนิต้า>>
เมื่อวานนี้ เวลา 00:03 น.

Leave a Reply

The maximum upload file size: 500 MB. You can upload: image, audio, video, document, spreadsheet, interactive, other. Links to YouTube, Facebook, Twitter and other services inserted in the comment text will be automatically embedded. Drop file here